วอลล์สตรีทปิดบวกในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเทคที่ดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนรอรับรายงานผลประกอบการของบรรดาบิคเทคที่จะทะยอยออกมา ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของวอลล์สตรีทขึ้นพร้อมกันในวันศุกร์ โดย Nasdaq ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์
“หุ้นกลุ่มชิปส์คือกลุ่มที่มีการร่วงลง ดังนั้นฉันจึงไม่แปลกใจมากนักหากมันจะดีดกลับมา” Peter Tuz ประธาน Chase Investment Counsel กล่าว "เราจะเห็นรายได้จากบริษัทเหล่านี้ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งมันเป็นกลุ่มที่พร้อมสำหรับการฟื้นตัว"
เซสชั่นตอนนี้ค่อนข้างสงบซึ่งจะตามมาด้วยสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยรายงานรายได้ของบริษัทต่างๆ รวมถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญอีกด้วย
นักลงทุนต่างมั่นใจว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงในการประชุมนโยบายในเดือนนี้ “นักลงทุน ค่อนข้างสบายใจที่พวกเขาจะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจากเฟด” Peter Tuz กล่าวเสริม "หุ้นสามารถไปได้ดีในสภาพแวดล้อมแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มเติบโต"
ตลาดการเงินกำลังวางโอกาสถึง 99.9% สำหรับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25 จุดโดยเฟดในการประชุมนโยบายในเดือนนี้ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME
ดัชนีอุตสากรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 254.07 จุด หรือ 0.76% สู่ระดับ 33,629.56 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 47.2 จุด หรือ 1.19% สู่ระดับ 4,019.81 จุดและดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 223.98 จุด หรือ 2.01% อยู่ที่ 11,364.41 จุด
ตามข้อมูลของ Refinitiv ระบุว่า ฤดูกาลการรายงานในไตรมาสที่สี่พบว่า 57 บริษัทใน S&P 500 รายงานผลประกอบการเหนือคาดการณ์ถึง 63% แต่ผลประกอบการไตรมาสที่สี่ในดัชนี S&P 500 โดยรวมลดลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในสัปดาห์นี้บริษัทขนาดใหญ่จะเผยผลประกอบการ ได้แก่ Microsoft Corp และ Tesla Inc พร้อมด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ประสบปัญหาอย่าง Boeing CO, 3M Co, Union Pacific Corp และ Dow Inc และ Northrop Grumman Corp
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเตรียมเผยตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 ในวันพฤหัสบดี ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 2.5%
S&P 500 ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์ 11 จุด และไม่มีจุดต่ำสุดใหม่ ขณะที่ Nasdaq Composite ทำสถิติสูงสุดใหม่ 82 จุดและต่ำสุดใหม่ 19 จุด
ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอยู่ที่ 11,990 ล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 10,620 ล้านในช่วง 20 วันทำการล่าสุด
แหล่งข่าว Wall Street extends rally, powered by tech bounce โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
