ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่มีการบังคับใช้เกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ในฐานะที่เป็นผู้ประเดิมจึงทำให้มีประเด็นถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ทำให้ตลาดที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลมีเสน่ห์มากขึ้น ดึงดูดให้มีนักลงทุนเข้ามาอยู่ในตลาดนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่หากมองในอีกแง่หนึ่ง ธุรกิจที่เป็นธุรกรรมการกระจายศูนย์ Decentralized Finance (DeFi) การถูกควบคุมถือว่าเหมาะสมหรือไม่
นางสาวฟรานเชสก้า รุสโซ่ ผู้ก่อตั้ง Crypto Meetup Thailand จึงจัดงาน Crypto, NFT & Beers ขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ในหัวข้อ "What do International Blockchain Leaders Think About Thailand's Regulations?" หรือ "มุมมองของบริษัท Blockchain ชั้นนำต่างประเทศ ที่มีต่อกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย"
ผ่านมุมมองกูรูต่างชาติที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ได้แก่ Toby Gilbert, CEO Coinweb.io, Jonathan Phan, Head of OKX Chain Ecosystem SEA, ดร. ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ดิจิทัล พรรคไทยสร้างไทย และคุณซานเจย์ สัญชัย ปอปลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คริปโตมายด์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็น ดังนี้
พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ("พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ") มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 มีผู้ประกอบการหลายแห่งที่ขอใบอนุญาต เพื่อให้สามารถยืนยันได้ว่ามีตัวตนที่แท้จริง มีความน่าเชื่อถือจากภาครัฐ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่สามารถขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจได้
ต่อมาตลาดคริปโทฯ มีการพัฒนาตลอดเวลา กฎหมายจึงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อสอดรับกับภาคธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขับเคลื่อนไม่มีวันหยุด อีกทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อนักลงทุน จึงเป็นการยากที่องค์กรใดจะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ทั้งนี้ การที่จะควบคุมแพลตฟอร์มทั้งหมดมีความยากมาก เพราะทุกอย่างคือการกระจายศูนย์ Decentralized Finance (DeFi) ที่มีเงินหมุนเวียนเข้า-ออก ตลอดเวลา ทั้งฝ่ายผู้คุมกฎเกณฑ์ และผู้ประกอบการควรต้องปรับตัวให้มีความสมดุลกัน ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยตอนนี้นับว่าเป็นตลาดที่เหมาะสมที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุน เป็นภูมิภาคที่เป็นมิตร มี Community ที่ดี
แหล่งข่าว กฎหมาย "สินทรัพย์ดิจิทัล" ในประเทศไทย โอกาสหรือการควบคุม, bangkokbiznews, 25 ก.ย. 2565