วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในรอบสัปดาห์นี้ว่า ความเชื่อมั่นทั้งผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคมร่วงลงต่อเนื่อง คาดความคืบหน้าจากการฉีดวัคซีนจะช่วยหนุนการฟื้นตัว โดยดัชนีการความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 44.7 จาก 46.0 เดือนเมษายน เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่ 82.3 จาก 84.3 เดือนเมษายน สาเหตุหลักจากการระบาดของ COVID-19 ระลอกสาม กอปรกับในเดือนพฤษภาคมมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอยู่ในระดับสูง และพบการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ๆ ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรม
แนวทางการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ล่าสุดทางการกำหนด 10 จังหวัดพื้นที่นำร่อง ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ บุรีรัมย์ และกรุงเทพมหานคร จากข้อมูลในปี 2562 พบว่าทั้ง 10 จังหวัดข้างต้น สามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมกันสูงเกือบ 95% ของรายได้ทั้งหมดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ การเริ่มโครงการภูเก็ตแชนด์บ็อกซ์เป็นต้นแบบ ก่อนจะทยอยเปิดเพิ่มเติมในพื้นที่นำร่องอื่นๆ ซึ่งทางการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 129,000 คน ในช่วงไตรมาส 3/2564 ทั้งนี้ การที่แต่ละพื้นที่นำร่องจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้จะต้องมีการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละพื้นที่ครบตามจำนวนที่ขอไว้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ อย่างไรก็ตาม วิจัยกรุงศรีประเมินว่าแม้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกต์จะสามารถดำเนินการได้แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาอาจยังมีไม่มากนัก โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 จะมีประมาณครึ่งหนึ่งจากเป้าของทางการ เนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดในไทย รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญยังเผชิญกับการระบาดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงอยู่ อาทิ อินเดีย และมาเลเซีย นอกจากนี้ เงื่อนไขและข้อกำหนดทั้งจากประเทศต้นทางและปลายทางที่อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ
วิจัยกรุงศรียกตัวเลขของ MOTS ที่เปิดสถิติ 10 จังหวัดที่มีรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็น 94.5% ของรายได้รวมในปี 2562 พบว่า กรุงเทพ สูงสุด 683.2 พันล้านบาท หรือ 41.5% ของรายได้รวม ภูเก็ต 393.2 พันล้านบาท หรือ 23.9% ชลบุรี 220.8 พันล้านบาท หรือ 13.4% สุราษฎร์ธานี 77.2 พันล้านบาท หรือ 4.7% กระบี่ 73.7 หมื่นล้านบาท หรือ 4.5% พังงา 45.3 พันล้านบาท หรือ 2.7% เชียงใหม่ 43.4 พันล้านบาท หรือ 2.6% ประจวบคีรีขันธ์ 13.8 พันล้านบาท หรือ 0.8% เพชรบุรี 4.7 พันล้านบาท หรือ 0.3% และ บุรีรัมย์ 3 ร้อยล้านบาท หรือ 0.02%
แหล่งข่าว กรุงศรีชี้หวัง'ฉีดวัคซีน'คืบดึงเชื่อมั่นท่องเทียว, bangkokbiznews, 15 มิ.ย. 2564