Jettarin.Su
Moderator
ในช่วงท้ายของวันจันทร์ ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ สูญเสียโมเมนตัมการเติบโต โดย DowJones ปิดลดลง 0.6% ใกล้เคียงกับจุดสูงสุด S&P500 กำลังลดลงอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มเซสชันการซื้อในสหรัฐฯ
เป็นที่น่าสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วส่วนใหญ่มีลักษณะการขายในรูปแบบที่สูง: โดยแรงกระตุ้นการเติบโตที่แข็งแกร่งระหว่างวันแต่มักจบลงด้วยการขายที่เพิ่มขึ้น
การลดลงเหล่านี้ถูกซื้อออกไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเฟดและสัญญาของแพคเกจการกระตุ้นใหม่ ซึ่งแสดงเห็นว่ายิ่งช่วงแกว่งแคบที่ผิดปกติไปนานเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการฝ่าวงล้อม แม้ว่ามันจะบอกทิศทางเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ขณะนี้ นักลงทุนรายย่อยในตลาดเชื่อกันว่า "หุ้นขึ้นอย่างแน่นอน" และหากมีการย้อนกลับ เฟดและธนาคารกลางสำคัญอื่น ๆ จะเปลี่ยนไปใช้ Printing press ทำให้ราคากลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วและนำดัชนีไปสู่จุดสูงสุดใหม่ในเวลาไม่กี่เดือน
ผลของการสนับสนุนของเฟดสำหรับตลาดในปีนี้แข็งแกร่งกว่า Greenspan’s Put อย่างมาก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจำไว้ว่า หุ้นสามารถผ่านช่วงเวลาที่ตกต่ำเป็นเวลานานได้ เช่น ในปี 2543 S&P 500 และ Dow Jones พลิกกลับสู่การลดลงซึ่งกินเวลาเกือบสามปี หรือในเดือนตุลาคม 2550 การลดลงหนึ่งปีครึ่งได้เริ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ เป็นตัวอย่างจากอดีตที่มีแนวปฏิบัตินโยบายการเงินในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ภาวะหมียังมีสถานะ Overbought ระยะสั้นในดัชนีหุ้นหลายตัว หลัง rally ในเดือนพฤศจิกายน บริษัทต่างๆยังคงสูญเสียรายได้ ตัดเงินปันผล และแม้จะมีความแน่นอนมากขึ้นภายหลังก็ตาม ซึ่งอาจจะทำลายความยั่งยืนของการซื้อในต่อมา
แรงจูงใจในการซื้อยังคงเป็นที่ว่าภาคส่วนอื่น ๆ ของตลาดการเงินกำลังมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงที่มากขึ้นผ่านความผันผวนที่เพิ่มขึ้น หรือผลตอบแทนพันธบัตรที่ต่ำในอดีต รวมถึงพันธบัตรขยะ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นดังกล่าวแทบไม่สามารถพึ่งพาเป็นปัจจัยการเติบโตในการซื้อระยะยาว
ทั้งนี้ ในไม่ช้าหรืออาจเร็วที่สุดในต้นปีหน้า สถานการณ์ตลาดลักษณะนี้อาจทำให้ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวด เร็วเมื่อนักลงทุนเข้าสู่แนวคิดการลงทุนที่มีแนวโน้มอย่างแท้จริง
แหล่งข่าว Sell high pattern for stocks is a worrying sign โดย The FxPro Analyst Team
แปลโดยทีม TradersThailand
การลดลงเหล่านี้ถูกซื้อออกไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเฟดและสัญญาของแพคเกจการกระตุ้นใหม่ ซึ่งแสดงเห็นว่ายิ่งช่วงแกว่งแคบที่ผิดปกติไปนานเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการฝ่าวงล้อม แม้ว่ามันจะบอกทิศทางเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ขณะนี้ นักลงทุนรายย่อยในตลาดเชื่อกันว่า "หุ้นขึ้นอย่างแน่นอน" และหากมีการย้อนกลับ เฟดและธนาคารกลางสำคัญอื่น ๆ จะเปลี่ยนไปใช้ Printing press ทำให้ราคากลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วและนำดัชนีไปสู่จุดสูงสุดใหม่ในเวลาไม่กี่เดือน
ผลของการสนับสนุนของเฟดสำหรับตลาดในปีนี้แข็งแกร่งกว่า Greenspan’s Put อย่างมาก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจำไว้ว่า หุ้นสามารถผ่านช่วงเวลาที่ตกต่ำเป็นเวลานานได้ เช่น ในปี 2543 S&P 500 และ Dow Jones พลิกกลับสู่การลดลงซึ่งกินเวลาเกือบสามปี หรือในเดือนตุลาคม 2550 การลดลงหนึ่งปีครึ่งได้เริ่มขึ้น ทั้งหมดนี้ เป็นตัวอย่างจากอดีตที่มีแนวปฏิบัตินโยบายการเงินในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ภาวะหมียังมีสถานะ Overbought ระยะสั้นในดัชนีหุ้นหลายตัว หลัง rally ในเดือนพฤศจิกายน บริษัทต่างๆยังคงสูญเสียรายได้ ตัดเงินปันผล และแม้จะมีความแน่นอนมากขึ้นภายหลังก็ตาม ซึ่งอาจจะทำลายความยั่งยืนของการซื้อในต่อมา
แรงจูงใจในการซื้อยังคงเป็นที่ว่าภาคส่วนอื่น ๆ ของตลาดการเงินกำลังมุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงที่มากขึ้นผ่านความผันผวนที่เพิ่มขึ้น หรือผลตอบแทนพันธบัตรที่ต่ำในอดีต รวมถึงพันธบัตรขยะ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นดังกล่าวแทบไม่สามารถพึ่งพาเป็นปัจจัยการเติบโตในการซื้อระยะยาว
ทั้งนี้ ในไม่ช้าหรืออาจเร็วที่สุดในต้นปีหน้า สถานการณ์ตลาดลักษณะนี้อาจทำให้ความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวด เร็วเมื่อนักลงทุนเข้าสู่แนวคิดการลงทุนที่มีแนวโน้มอย่างแท้จริง
แหล่งข่าว Sell high pattern for stocks is a worrying sign โดย The FxPro Analyst Team
แปลโดยทีม TradersThailand
