การลดกำลังการผลิตของ OPEC จะช่วยพยุงผลกำไรของบริษัทพลังงานในปี 2564

Jettarin.Su

Moderator
6.JPG

การตัดสินใจของ OPEC+ ที่จะลดการผลิตน้ำมันดิบในเดือนมีนาคมช่วยพยุงราคาน้ำมันให้ขึ้นชั่วขณะ
การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้วจากสถานการณ์ราคาที่ตกต่ำและอุปสงค์ที่บังคับให้ลดกำลังการผลิตลง

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกกล่าวว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ขณะที่ รัสเซียและคาซัคสถานจะเพิ่มผลผลิต ซึ่งรวมแล้ว OPEC + มีแผนที่จะอุปทานน้ำมันดิบ 500,000 bpd ต่อเดือนในห้วงสองเดือน
ราคาน้ำมัน WTI ในวันศุกร์เพิ่มขึ้น 52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาฟิวเจอร์ส 12 เดือนแตะระดับ 51.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจาก 44.63 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนธันวาคม

บริษัทพลังงานชั้นนำของสหรัฐฯ สองแห่งมีผลกำไรอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลถึงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามข้อมูลของ Rystad Energy ทั้งนี้ ราคาที่สูงขึ้นในปีนี้สามารถผลักดันเงินสดของบริษัทให้เพิ่มขึ้น 32% อีกปัจจัยหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตคือต้นทุนบริการบ่อน้ำมันที่ต่ำ

Liberty ยังสามารถรักษาลูกค้าไว้ตลอดช่วงการแพร่ระบาด แต่ราคาที่ต่ำทำให้ไม่สามารถหาลูกค้ารายใหม่ได้ ความต้องการบริการ fracking ที่ฟื้นตัว คาดว่าจะช่วยให้กิจการดำเนินงานดีขึ้น
น้ำมันจะต้องแตะระดับ 60-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพื่อฟื้นฟูผลผลิตของสหรัฐฯ ได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะเพิ่มผลตอบแทนของนักลงทุน และราคาเฉลี่ยจะต้องแตะ 56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลถึงจะเร่งให้เกิดการขุดเจาะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี Sarp Ozkan ผู้อำนวยการอาวุโสของ บริษัท วิเคราะห์ Enverus กล่าวว่า อุตสาหกรรมดังกล่าวในปีนี้คงจะเป็นการฟื้นตัวมากกว่าการเติบโต

ที่มารูปภาพ Jennifer Hiller
แหล่งข่าว OPEC crude output cuts should help U.S. shale profits in 2021 โดย Reuters

แปลโดยทีม TradersThailand
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top