ก.ล.ต.ให้ Zipmex ชี้แจงข้อมูลทรัพย์สินของลูกค้า ที่ฝากไว้ในโปรแกรม ZipUp+ และนำไปลงทุนในแพลตฟอร์มต่างๆ ท่ามกลางกระแสข่าวอาจเสียหายถึง 5 พันล้าน ด้าน Zipmex แจงมีสินทรัพย์ฝากอยู่ที่ Babel เพียง 48 ล้านดอลลาร์ และที่ Celsius 5 ล้านดอลลาร์ พร้อมตั้งใจนำเงินทุนบริษัทมาจัดการความเสียหายของลูกค้า ขณะที่โบรกเกอร์ชี้สร้าง Sentiment เชิงลบให้บริษัทจดทะเบียนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเมื่อวันที่ 20 ก.ค.65 บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด หรือเว็บเทรด Zipmex ได้ประกาศระงับการถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัล ให้เหตุผลว่า เนื่องจากสถานการณ์ความผันผวนของตลาด รวมถึงปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นจากคู่ค้าทางธุรกิจหลัก โดยนักลงทุนที่ลงทุนในโปรแกรม ZipUp+ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ลูกค้าในไทยมีการฝากเหรียญหรือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ที่ zipmex global ที่สิงคโปร์ และ zipmex Global นำเหรียญของลูกค้าที่ฝากไว้ไปลงทุนหรือหาผลตอบแทนกับคู่ค้าที่มีการเปิดชื่อ 2 รายคือ Babel Finance และ Celsius
ซึ่งทั้ง 2 รายนี้กำลังเผชิญวิกฤติสภาพคล่อง โดย Celsius ยื่นศาลขอล้มละลาย ส่วน Babel ระงับการถอน ทำให้ Zipmex Global ไม่สามารถ ถอนเหรียญ BTC, ETH, USDT และ USDC ที่ฝากไว้ออกมาได้ ส่งผลให้ Zipmex ไทยต้องระงับการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่าง Z Wallet (บัญชีของโปรแกรม ZipUp+) ไปยัง Trade Wallet (บัญชีซื้อ-ขายปกติ) เป็นการชั่วคราว นั่นคือลูกค้าที่มีเหรียญ BTC, ETH, USDC และ USDT ที่ฝากไว้ในโปรแกรม ZipUp++ จะไม่สามารถถอนเงินและเหรียญออกมาได้
แหล่งข่าว ก.ล.ต.สั่งแจงข้อมูลทรัพย์สินลูกค้า Zipmex ยันนำเงินทุนมาชดใช้ความเสียหาย, ไทยรัฐ, 22 ก.ค. 2565