ธนาคารโลกได้จัดทำรายงานตามติดเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เดือน เม.ย.2565 โดยในส่วนของประเทศไทย เนื่องจากภาวะช็อกของเศรษฐกิจโลกจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาพลังงาน และอาหารเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ธนาคารโลกจึงปรับลดประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ลงเหลือ 2.9% ลดลงมากจากประมาณการในเดือน ม.ค.ที่ 3.9% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัว
ในรายงานการประเมินเศรษฐกิจไทยของธนาคารโลกมีความเห็นว่าในส่วนของนโยบายการเงินน่าจะยังต้องผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.5% ต่อไป เพื่อให้เศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เพราะหากอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นในขณะนี้ จะยิ่งกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายและชำระหนี้ของครัวเรือนไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันยังต้องพิจารณาการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นของภาคธุรกิจต่อราคาสินค้าในอนาคตด้วย
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะทำหน้าที่ประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือน เม.ย.เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท. เปิดเผยว่า กกร.ได้พิจารณาปรับอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศไทยในปีนี้ใหม่ โดยให้เป็นขยายตัว 2.5-4% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่าจะมีอัตราการขยายตัว 2.5-4.5% พร้อมกับปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ เป็น 3.5-5.5% จากเดิม 2-3% ส่วนการส่งออกยังคงเป้าหมายเดิมที่ 3-5% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป
แหล่งข่าว ของแพง-หนี้ท่วม-คนไทยจนเพิ่ม , ไทยรัฐ, 06 เม.ย. 2565