คลังต่อยอดกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเครื่องยนต์ใหม่โตระยะยาว

WealthUp

Moderator
Staff member
Optimized-14 (3).jpg

คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ วารสารการเงินธนาคาร ฉบับพฤศจิกายนคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2564 จะไม่ติดลบ แต่จะเติบโตเฉลี่ย 0.7-1.3% สวนทางกับหน่วยงานเอกชนที่คาดว่าจีดีพีปีนี้จะติดลบ ปีหน้า 2565 คุณอาคม บอกว่า หน่วยงานด้านเศรษฐกิจไทยยังคาดจะขยายตัวได้ 3-4% แต่รัฐบาลมองว่าจะขยายตัวได้ 4-5% ปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าคือ กระทรวงการคลังจะยังออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับ มาตรการสนับสนุนสินเชื่อและมาตรการพักชำระหนี้ของแบงก์ชาติ

รัฐมนตรีอาคม ได้เปิดเผยถึง แนวทางการกระตุ้นการใช้จ่าย ในปี 2565 ว่าอาจจะเป็นโครงการเดิมแต่เอามาทำใหม่ เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 4 และ โครงการช้อปดีมีคืน รวมถึง มาตรการสินเชื่อ การพักชำระหนี้ แต่ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2565 ก็คือการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ โดยมีเม็ดเงินที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ 3 ส่วน คือ เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับ วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท งบประมาณปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายปี 2564 และ เงินจากรัฐวิสาหกิจอีก 300,000 ล้านบาท โดย คุณอาคม ยืนยันว่า เม็ดเงินของรัฐบาลออกตามกำหนดแน่นอน

ทำให้ไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึงงบประมาณปีหน้า จะมีเงินเข้าสู่ระบบสูงถึง 3.7 ล้านล้านบาท

คุณอาคม เปิดเผยว่า นโยบายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงการคลังจะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนด้วย “เครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่” และ “การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ” เพื่อให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว ประกอบด้วย 3 เครื่องยนต์หลักคือ

1.การส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG หรือ Bio Circular Green Economy จะให้ความสำคัญในการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างสินค้ามูลค่าสูง คำนึงถึงการนำวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว เช่น การออกพันธบัตรเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสังคม และเพื่อความยั่งยืน การส่งเสริมการลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2573 ในต้นปีนี้รัฐบาลประสบความสำเร็จในการออก พันธบัตรรัฐบาลเพื่อความยั่งยืน และได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก
2.การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ โดยการ เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และ มุ่งเน้นการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร รวมทั้ง การลงทุนในโครงการอีอีซี เพื่อเป็น “เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่” ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องมี New Growth หรือ เครื่องยนต์ตัวใหม่ ซึ่งก็คือ โครงการใน EEC ที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ โครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างของรัฐด้านนวัตกรรม โครงการของเอกชน ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
3.การปรับเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล (Digitalization) เป็นอีกกุญแจสำคัญที่จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทย คุณอาคม บอกว่า มีคนเอาเศรษฐกิจไทยไปเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านว่า เราโตตํ่าสุดในอาเซียน แต่ต้องไม่ลืมว่า เศรษฐกิจเราใหญ่อันดับ 2 ในอาเซียน การฟื้นตัวไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้อมี “เครื่องยนต์ใหม่” หรือ New Growth เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตในระยะยาว

แหล่งข่าว คลังต่อยอดกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเครื่องยนต์ใหม่โตระยะยาว, bangkokbiznews, 18 พ.ย. 2564
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top