นักวิเคราะห์และนักกฎหมายระบุว่า นับตั้งแต่ปักกิ่งเริ่มลดหนี้สินขององค์กร (corporate debt) ในปี 2560 นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากได้หันไปใช้เครื่องมือที่เรียกว่านอกงบดุล (off-balance-sheet) เพื่อขอยืมเงิน โดยการร่วมทุนเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
He Siwei ทนายความของบริษัท Hui Ye Law กล่าวว่า "นักพัฒนาเกือบทุกรายมีการกู้ยืมปลอม ซึ่งปัญหาหนี้ของภาคส่วนนี้ย้ำแย่กว่าที่คุณเห็น" นักพัฒนาอสังหาของจีนเป็นหนี้สินมูลค่าราว 33.5 ล้านล้านหยวน (5.24 ล้านล้านดอลลาร์) ผ่านช่องทางต่างๆ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน จากประมาณการอย่างเป็นทางการของ Nomura และเสริมว่า "ยังมีช่องทางการจัดหาเงินทุนที่ไม่ชัดเจนอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้"
จากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีน 70 รายที่จัดอันดับโดย Moody's มี 27 รายที่มีโอกาสที่จะร่วมทุนเมื่อเทียบกับ 5 ใน 49 รายในปี 2558 ซึ่งภายใต้การร่วมทุนนั้น ผู้พัฒนาจะจัดตั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้จัดการสินทรัพย์หรือกองทุนไพรเวทอิควิตี้และมีการรับรองว่าจะให้ผลตอบแทนคงที่และจะมีการซื้อคืนหุ้นจากนักลงทุนรายในภายหลัง
ปัญหาของ Evergrande ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวในการชำระคืนพันธบัตร ด้วยมูลค่หนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์หรือคิดเป็นประมาณ 2% ของ GDP ของจีน รูปแบบการจัดหาเงินทุนของ Evergrande ซึ่งขึ้นอยู่กับยอดขายใหม่ประสบปัญหาเมื่อปักกิ่งเปิดตัวกฎหมายที่เรียกว่า "Three Red Lines" ในปีที่แล้ว นักวิเคราะห์กล่าวว่า Evergrande ไม่มีการร่วมทุนมากนัก แต่บริษัทใช้หนี้นอกงบดุลในการระดมทุน เช่น การขายผลิตภัณฑ์การบริหารความมั่งคั่ง
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ประมาณการว่าอัตรา net gearing แท้จริงของ Evergrande อยู่ที่ 177% ณ สิ้นเดือนมิถุนายนเป็นอย่างน้อยเทียบกับ 100% ที่รายงานในบัญชีของบริษัท ขณะที่ R&F Properties ก็ประมาณการเพิ่มขึ้นเป็น 139% จาก 123% เมื่อมีการเพิ่มหนี้ปลอมกลับเข้าไป ขณะที่ตัวเลขของ Sunac China Holdings พุ่งขึ้นเป็น 138% จาก 87%
Yi Gang ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าเศรษฐกิจของจีนเผชิญกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สำหรับบริษัทบางแห่งเนื่องจาก "การจัดการที่ผิดพลาด" และทางการจะพยายามป้องกันปัญหาไม่ให้แพร่กระจาย
จากการที่มีการตรวจสอบจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น นักพัฒนาอสังหาในจีนบางรายจึงเริ่มนำการร่วมทุนบางส่วนเข้ารวมกับงบดุล JPMorgan ประมาณการว่า net gearing ของ Fantasia เพิ่มขึ้นเป็น 92% เมื่อควบรวมกิจการเทียบกับ 76% ที่เคยรายงานไว้ ทั้งนี้หากรวมทั้งการร่วมทุนและ minority interests จะเพิ่มขึ้นเป็น 170% การผิดนัดของ Fantasia ทำให้เกิดการเทขายหุ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการเทขายจำนวนมาก ณ ราคาที่ต่ำสุด ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มเข้าช้อนในสัปดาห์นี้ แม้ว่าจะมีคำเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
"แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่" เจฟฟ์ กริลส์ หัวหน้าฝ่ายหนี้ในตลาดเกิดใหม่ที่ Aegon Asset Management กล่าว “และอีกอย่างคือมันยากที่จะรู้จนกว่ามันจะเกิดขึ้นกับคุณ”
แหล่งข่าว What lies beneath? Hidden debt fears feed China's property woes โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand