ผลสำรวจของธนาคารกลางเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ความเชื่อมั่นใจภาคธุรกิจของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันในเดือนกันยายนจากอุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในการฉีดวัคซีนและความหวังของการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งยังหนุนความเชื่อมั่นในการยุติมาตรการฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตคาดว่าสภาพธุรกิจจะแย่ลงไปอีก 3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและการหยุดโรงงานในเอเชียทำให้การผลิตหยุดชะงัก
Takumi Tsunoda นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Shinkin Central Bank Research กล่าวว่า "ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตรถยนต์แย่ลง แต่นั่นก็ถูกชดเชยด้วยความแข็งแกร่งของเครื่องจักรไฟฟ้าและรายจ่ายลงทุน เนื่องจากความต้องการด้านไอทีทั่วโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อจำกัดด้านอุปทานกำลังส่งผลกระทบต่อภาคส่วนที่กว้างขึ้น โดยชิ้นส่วนจากเอเชียกำลังขาดแคลน” ทั้งนี้ "การหยุดชะงักของการผลิตในประเทศอาจขยายวงกว้างไปไกลกว่าผู้ผลิตรถยนต์"
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ค้าปลีก ร้านอาหาร และโรงแรมต่างมีมุมมองค่อนข้างดีเกี่ยวกับสภาพธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความหวังในการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง เช่นเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่บางแห่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น เหล็กกล้าและน้ำมันมีการปรับปรุงมุมมองดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นสัญญาณที่น่ากังวลบางประการ ความเชื่อมั่นของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แย่ลงมาอยู่ที่ติดลบ 7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เนื่องจากการหยุดชะงักของอุปทาน ผลสำรวจมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยภาคส่วนต่างๆ เช่น ผู้ผลิตเหล็กและผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็กต่างกังวลถึงสภาพการณ์ที่ย่ำแย่ลงในอนาคต
แหล่งข่าว Japan's business mood improves on solid demand, hopes of post-COVID recovery โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
