Menu
Forums
New posts
Search forums
What's new
New posts
Blog
Latest activity
Members
Current visitors
เกี่ยวกับเรา
Groups
Search groups
Upcoming events
ภาษา (🇺🇸 🇹🇭)
Log in
Register
What's new
Search
Search
Search titles only
By:
New posts
Search forums
Menu
Log in
Register
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
ความเสี่ยงของตลาดที่จะเข้ามาในเดือนมกราคม 2564 - 25 ธันวาคม 2563
JavaScript is disabled. For a better experience, please enable JavaScript in your browser before proceeding.
Reply to thread
Message
<p>[QUOTE="Jettarin.Su, post: 967, member: 14"]</p><p style="text-align: center">[ATTACH=full]1031[/ATTACH]</p><p></p><p>เมื่อตลาดหุ้นจะต้องปิดการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่จะถึง ตลาดกระทิงจะพร้อมเข้าสู่ปี 2564 แต่อาจจะช้าลง ซึ่งเดือนมกราคมเป็นเดือนที่วอลล์สตรีทมักมองว่าเป็นตัวกำหนดทิศทางสำหรับทั้งปี ท่ามกลางความท้าทายจากการแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่และการเลือกตั้งในวันที่ 5 มกราคม</p><p></p><p>ในวันที่ 20 มกราคม โจไบเดนจะสาบานตนเป็นประธานาธิบดี Sam Stovall หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ CFRA กล่าวว่า ปกติแล้ว rally จะเกิดขึ้นในช่วงคริสมาสต์ปลายปี แต่ครั้งนี้เขาจะรอดูการซื้อขายในช่วงห้าวันแรกของเดือนมกราคมเพื่อดูสัญญาณในปี 2564 เขาเน้นว่า มีหลายสิ่งที่เราอาจกังวลในเดือนมกราคม ซึ่งเหมือนว่าตลาดอาจกำลังปรับฐานเพื่อค้นหาตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตัวเร่งปฏิกิริยาคืออะไร</p><p></p><p>ขณะที่ นักกลยุทธ์บางรายคาดว่า จะมี pullback ในช่วงต้นปี แต่ข้อสรุปคือปี 2564 ตลาดจะปิดบวก S&P 500 ณ สิ้นปี 2564 จะอยู่ที่ 4,056 จุด Sam Stovall ระบุว่า ตลาดมีมูลค่าสูงและมีสัญญาณของฟองสบู่ อัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือนสำหรับบริษัทใน S&P 500 อยู่ที่ระดับพรีเมี่ยมที่ 41% ถึงค่าเฉลี่ยผลคูณที่ 16.7 ซึ่งเป็นระดับในปี 2543</p><p></p><p>อย่างไรก็ตาม Michael Arone หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ State Street Global Advisors กล่าวว่า ฉันไม่รู้สึกว่าสองสามวันแรกของเดือนมกราคมจะสามารถกำหนดทิศทางตลาดในตลอดปี ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งในจอร์เจียเป็นตัวกระตุ้นหุ้นและตลาดไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ หากมีเรื่องเซอร์ไพรส์ พรรคเดโมแครตชนะทั้งสองที่นั่ง วุฒิสภาจะถูกแบ่งเท่า ๆ นั่นจะทำให้รองประธานาธิบดีกมลาแฮร์ริสจะสามารถออกเสียงโหวตเพื่อตัดสินได้ (tie-breaking vote)</p><p></p><p>นักยุทธศาสตร์บางรายกล่าวว่า ตลาดอาจ sell off หากพรรคเดโมแครตชนะ นักลงทุนกลัวการขึ้นภาษีตามนโยบายของไบเดน ในทางกลับกันหากรีพับบริกันชนะอาจจะกระตุ้นให้เกิด rally อย่างไรก็ตาม Stovall มองว่า rally สามารถเกิดขึ้นได้หากนักลงทุนพิจารณาถึงโอกาสในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเดโม</p><p></p><p>ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 900,000 ล้านดอลลาร์อาจกลายเป็นเรื่องกังวลหากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ไม่ลงนามในร่างกฎหมาย ซึ่งมันจะช่วยเหลือแก่ชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ได้รับสวัสดิการว่างงานและกำลังจะหมดลงในวันที่ 31 ธันวาคม</p><p>อนึ่ง S&P 500 ทำกำไรแล้วประมาณ 15% ในปี 2563 จากภาวะกระทิงตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา</p><p></p><p><em>แหล่งข่าว Stocks ready to close out powerful 2020 as risks loom in January โดย CNBC</em></p><p><em></em></p><p><em><strong>แปลโดยทีม TradersThailand</strong></em></p><p>[/QUOTE]</p>
[QUOTE="Jettarin.Su, post: 967, member: 14"] [CENTER][ATTACH type="full"]1031[/ATTACH][/CENTER] เมื่อตลาดหุ้นจะต้องปิดการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่จะถึง ตลาดกระทิงจะพร้อมเข้าสู่ปี 2564 แต่อาจจะช้าลง ซึ่งเดือนมกราคมเป็นเดือนที่วอลล์สตรีทมักมองว่าเป็นตัวกำหนดทิศทางสำหรับทั้งปี ท่ามกลางความท้าทายจากการแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่และการเลือกตั้งในวันที่ 5 มกราคม ในวันที่ 20 มกราคม โจไบเดนจะสาบานตนเป็นประธานาธิบดี Sam Stovall หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ CFRA กล่าวว่า ปกติแล้ว rally จะเกิดขึ้นในช่วงคริสมาสต์ปลายปี แต่ครั้งนี้เขาจะรอดูการซื้อขายในช่วงห้าวันแรกของเดือนมกราคมเพื่อดูสัญญาณในปี 2564 เขาเน้นว่า มีหลายสิ่งที่เราอาจกังวลในเดือนมกราคม ซึ่งเหมือนว่าตลาดอาจกำลังปรับฐานเพื่อค้นหาตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตัวเร่งปฏิกิริยาคืออะไร ขณะที่ นักกลยุทธ์บางรายคาดว่า จะมี pullback ในช่วงต้นปี แต่ข้อสรุปคือปี 2564 ตลาดจะปิดบวก S&P 500 ณ สิ้นปี 2564 จะอยู่ที่ 4,056 จุด Sam Stovall ระบุว่า ตลาดมีมูลค่าสูงและมีสัญญาณของฟองสบู่ อัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือนสำหรับบริษัทใน S&P 500 อยู่ที่ระดับพรีเมี่ยมที่ 41% ถึงค่าเฉลี่ยผลคูณที่ 16.7 ซึ่งเป็นระดับในปี 2543 อย่างไรก็ตาม Michael Arone หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ State Street Global Advisors กล่าวว่า ฉันไม่รู้สึกว่าสองสามวันแรกของเดือนมกราคมจะสามารถกำหนดทิศทางตลาดในตลอดปี ผลลัพธ์ของการเลือกตั้งในจอร์เจียเป็นตัวกระตุ้นหุ้นและตลาดไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ หากมีเรื่องเซอร์ไพรส์ พรรคเดโมแครตชนะทั้งสองที่นั่ง วุฒิสภาจะถูกแบ่งเท่า ๆ นั่นจะทำให้รองประธานาธิบดีกมลาแฮร์ริสจะสามารถออกเสียงโหวตเพื่อตัดสินได้ (tie-breaking vote) นักยุทธศาสตร์บางรายกล่าวว่า ตลาดอาจ sell off หากพรรคเดโมแครตชนะ นักลงทุนกลัวการขึ้นภาษีตามนโยบายของไบเดน ในทางกลับกันหากรีพับบริกันชนะอาจจะกระตุ้นให้เกิด rally อย่างไรก็ตาม Stovall มองว่า rally สามารถเกิดขึ้นได้หากนักลงทุนพิจารณาถึงโอกาสในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเดโม ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 900,000 ล้านดอลลาร์อาจกลายเป็นเรื่องกังวลหากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ไม่ลงนามในร่างกฎหมาย ซึ่งมันจะช่วยเหลือแก่ชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ได้รับสวัสดิการว่างงานและกำลังจะหมดลงในวันที่ 31 ธันวาคม อนึ่ง S&P 500 ทำกำไรแล้วประมาณ 15% ในปี 2563 จากภาวะกระทิงตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา [I]แหล่งข่าว Stocks ready to close out powerful 2020 as risks loom in January โดย CNBC [B]แปลโดยทีม TradersThailand[/B][/I] [/QUOTE]
Preview
Name
Verification
Post reply
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
ความเสี่ยงของตลาดที่จะเข้ามาในเดือนมกราคม 2564 - 25 ธันวาคม 2563
Top