ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นค้าปลีกเดือน ก.ค.2564 ที่ผ่านมา มีความน่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่รุนแรงกว่าระลอกแรกเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวในเดือน ส.ค.2564 ได้ขยายพื้นที่และจังหวัดคุมเข้มสูงสุดเป็น 29 จังหวัด ส่งผลให้ภาคค้าปลีกต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวสู่ระดับปกติ โดยคาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงกลางปี 2566
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีก Retail Sentiment Index (RSI) อยู่ที่ระดับ 16.4 ลดต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ติดลบ 70% และการลดลงของยอดขายสาขาเดิมเดือน ก.ค.ปีนี้ การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ Same Store Sale Growth (SSSG) เกิดจากทั้ง ยอดใช้จ่ายต่อใบเสร็จ (Spending Per Bill) และ ความถี่ในการจับจ่าย ลดลงพร้อมกันทั้งคู่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 270,000 ล้านบาท และมีกิจการกว่า 100,000 ร้านค้า เตรียมปิดกิจการ ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานกว่าล้านคน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก สะท้อนถึงการฟื้นตัวต้องใช้เวลา
แหล่งข่าว ค้าปลีกเสียหาย 2.7 แสนล้าน สำลักพิษ “โควิด-ล็อกดาวน์” จ่อปิดกิจการอื้อ, ไทยรัฐ, 7 ส.ค. 2564