ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (16 มี.ค.) เห็นชอบกรอบงบประมาณปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณแบบขาดดุล 7 แสนล้านบาท ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้คงงบเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง คนชรา บัตรสวัสดิการ ถึงแม้สัดส่วนจะพุ่งไปถึง 1.5 ล้านล้านบาท
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (16 มี.ค.) เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากปี 2563 1.85 แสนล้านบาท หรือลดลง 5.6% โดยงบประมาณในปี 2565 เป็นงบประมาณแบบขาดดุล 7 แสนล้านบาท โดยประมาณการจัดเก็บรายได้ 2.4 แสนล้านบาท บนสมมุติฐานว่าเศรษฐกิจขยายตัว 4-5%
งบประมาณปี 2565 เป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและการจัดเก็บรายได้ที่ลดลงในช่วงโควิด-19 โดยปี 2563 ขาดดุลงบประมาณ 4.69 แสนล้านบาท และในปี 2564 ขาดดุลงบประมาณ 6.23 แสนล้านบาท
ในปีงบประมาณ 2565 มีคำของบประมาณจากหน่วยงานราชการและหน่วยคำขอรับงบประมาณทั้งสิ้น 5.24 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณประจำ 2.36 ล้านล้านบาท และเป็นงบลงทุน 6.2 แสนล้านบาท
โดยการจัดทำงบประมาณได้รับเอาแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง คนชรา เด็กแรกเกิด คนพิการ รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งรวมกันเป็นวงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่งบประมาณในส่วนนี้ไม่ได้ปรับลดลง ส่วนงบประมาณอื่นที่ตัดลดลง เช่น งบประจำ งบประมาณที่ยังไม่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อนำมาจัดสรรให้ได้ตามกรอบงบประมาณที่มี
นอกจากนี้ปี 2565 ได้ตั้งงบประมาณชำระคืนเงินกู้ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ย 1.7-1.8 แสนล้านบาท โดยเป็นการจ่ายในส่วนของเงินต้น 1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2564 กว่า 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.01% คิดเป็นสัดส่วน 3.22% ของวงเงินงบประมาณ สูงกว่าเทียบกับปีงบประมาณ 2564 ที่ 3.01% ซึ่งการจ่ายคืนเงินกู้คืนเพื่อรักษาเครดิตประเทศไว้
แม้การตั้งงบประมาณในปี 2565 จะลดลงจากปี 2564 เนื่องจากปรับลดลงของการจัดเก็บรายได้ แต่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า กระทรวงการคลังจะพยายามจัดเก็บรายได้ให้ได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งถ้าหากเศรษฐกิจในปี 2565 ฟื้นตัวขึ้นภาครัฐมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นก็จะจัดทำงบกลางปีในปีงบประมาณ 2565 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงเวลานั้นได้
นายสมหมาย ลักขณานุรักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในปี 2565 เป็นปีงบประมาณที่ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 6.2 แสนล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าการขาดดุลงบประมาณที่ตั้งไว้ 7 แสนล้านบาท ซึ่งเคยเกิดขึ้นใน 2552-2553 ช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งทำให้ต้องวางแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมกรณีงบลงทุนน้อยกว่าขาดดุล
แหล่งข่าว งบปี 65 ขาดดุลพุ่ง 7 แสนล้าน 'คลัง'เร่งรายได้เพิ่มงบกลางปี, Bangkokbiznews, 16 มี.ค. 2564
นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (16 มี.ค.) เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากปี 2563 1.85 แสนล้านบาท หรือลดลง 5.6% โดยงบประมาณในปี 2565 เป็นงบประมาณแบบขาดดุล 7 แสนล้านบาท โดยประมาณการจัดเก็บรายได้ 2.4 แสนล้านบาท บนสมมุติฐานว่าเศรษฐกิจขยายตัว 4-5%
งบประมาณปี 2565 เป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจและการจัดเก็บรายได้ที่ลดลงในช่วงโควิด-19 โดยปี 2563 ขาดดุลงบประมาณ 4.69 แสนล้านบาท และในปี 2564 ขาดดุลงบประมาณ 6.23 แสนล้านบาท
ในปีงบประมาณ 2565 มีคำของบประมาณจากหน่วยงานราชการและหน่วยคำขอรับงบประมาณทั้งสิ้น 5.24 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณประจำ 2.36 ล้านล้านบาท และเป็นงบลงทุน 6.2 แสนล้านบาท
โดยการจัดทำงบประมาณได้รับเอาแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง คนชรา เด็กแรกเกิด คนพิการ รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งรวมกันเป็นวงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่งบประมาณในส่วนนี้ไม่ได้ปรับลดลง ส่วนงบประมาณอื่นที่ตัดลดลง เช่น งบประจำ งบประมาณที่ยังไม่จำเป็นเร่งด่วนเพื่อนำมาจัดสรรให้ได้ตามกรอบงบประมาณที่มี
นอกจากนี้ปี 2565 ได้ตั้งงบประมาณชำระคืนเงินกู้ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ย 1.7-1.8 แสนล้านบาท โดยเป็นการจ่ายในส่วนของเงินต้น 1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2564 กว่า 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.01% คิดเป็นสัดส่วน 3.22% ของวงเงินงบประมาณ สูงกว่าเทียบกับปีงบประมาณ 2564 ที่ 3.01% ซึ่งการจ่ายคืนเงินกู้คืนเพื่อรักษาเครดิตประเทศไว้
แม้การตั้งงบประมาณในปี 2565 จะลดลงจากปี 2564 เนื่องจากปรับลดลงของการจัดเก็บรายได้ แต่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า กระทรวงการคลังจะพยายามจัดเก็บรายได้ให้ได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งถ้าหากเศรษฐกิจในปี 2565 ฟื้นตัวขึ้นภาครัฐมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นก็จะจัดทำงบกลางปีในปีงบประมาณ 2565 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในช่วงเวลานั้นได้
นายสมหมาย ลักขณานุรักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ในปี 2565 เป็นปีงบประมาณที่ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 6.2 แสนล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าการขาดดุลงบประมาณที่ตั้งไว้ 7 แสนล้านบาท ซึ่งเคยเกิดขึ้นใน 2552-2553 ช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งทำให้ต้องวางแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมกรณีงบลงทุนน้อยกว่าขาดดุล
แหล่งข่าว งบปี 65 ขาดดุลพุ่ง 7 แสนล้าน 'คลัง'เร่งรายได้เพิ่มงบกลางปี, Bangkokbiznews, 16 มี.ค. 2564