เสียงเฮ กระหึ่มพรรคเพื่อไทย ได้ยินไกลไปถึงดูไบ ที่พำนัก “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร หลังแน่นอนแล้วว่า กติกาการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเปลี่ยนมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เลือกคน-เลือกพรรค
เนื่องจาก “ทักษิณ-เพื่อไทย” ถนัดเกมการเลือกตั้งบัตร 2 ใบมากที่สุด และไม่เคยพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ยิ่งมั่นใจว่า ลุยพรรคเดี่ยวเที่ยวนี้ จะกลับมาครองอำนาจรัฐได้แน่นอน แม้จะมี “250 ส.ว.”ที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้อีกรอบ ขวางทางอยู่
“ทักษิณ-เพื่อไทย” ต้องการชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ โดยมีเป้าหมายอย่างน้อยที่สุดต้องได้ ส.ส.251 เสียง เพื่อต่อรอง-เปิดดีลการเมือง
ที่สำคัญ ย่อมทำให้ “250 ส.ว.” ต้องคิดหนักในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะแม้จะล็อกโหวตได้ แต่หาก“ขั้วประยุทธ์-เครือข่ายคสช.”ในรัฐสภา มีน้อยกว่า 250 เสียง ก็ยากที่บริหารประเทศได้สะดวกอย่างที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวของคนแดนไกลในเวลานี้ จึงสั่งการให้ทุกองคาพยพของ “เพื่อไทย” เตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง
“ทีมยุทธศาสตร์” เร่งพีอาร์นโยบายเพื่อไทย เพื่อคนทุกกลุ่ม พร้อมกับคัดเลือกผู้สมัครเกรดเอบวก และวางแผนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เนิ่นๆ
ที่น่าสนใจที่สุดคือ การเดินเกมดึง ส.ส.ปัจจุบันให้อยู่ต่อ และดูด ส.ส.ขั้วตรงข้ามซึ่ง “ปฏิบัติการดูด” สกัดลูกพรรคที่เตรียมย้ายค่าย หลังเห็นสัญญาณ ส.ส.หลายราย คนแดนไกลจึงมีคำสั่งเร่งทำความเข้าใจกับ ส.ส.-อดีตผู้สมัครที่ลังเล รวมทั้งดีลกลุ่มก๊วน ส.ส.พรรคคู่แข่ง
“สายเหนือ” มอบหมาย “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ยังมีคอนเนคชั่น “บิ๊กเนม" ที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ยื่นข้อเสนอให้ย้ายกลับมาร่วมทางกันใหม่ อีกด้านก็ยังส่งมือไม้ไปติดต่อบรรดา “อดีตผู้สมัครเกรดเอ” ของค่ายตรงข้ามหลายราย
“สายอีสาน” ใช้บริการ “เฮียเพ้ง”พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ให้เคลียร์กลุ่มแทงกั๊ก ซึ่งมีทั้งส.ส.เพื่อไทยปัจจุบัน และอดีตผู้สมัครส.ส.ที่รับ “ท่อน้ำเลี้ยง” จากพรรคร่วมรัฐบาล ให้ตัดสินใจเลือกข้างเพื่อไทยให้ชัด
ทว่าปฏิบัติการเชิงรุกของคนแดนไกล กลับยังไร้เสียงตอบรับ
เห็นความวิตกกังวล ของ “โทนี่" ที่ส่งสัญญาณด้วยตัวเองทั้งทางลับ-ทางเปิด พูดชัดเจนในคลับเฮาส์หลายครั้งว่า “ส.ส.คนไหนอยากกลับ ให้รีบกลับ”
แม้จะเปิดเกมด้วยความมั่นใจชักแม่น้ำทั้ง 5 มากล่อม ขายฝันชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ รอเปิดดีลจัดตั้งรัฐบาล แต่ปรากฎว่าทั้งสายเหนือ-อีสาน ที่ “เจ๊แดง-เฮียเพ้ง”เร่งดูด เร่งดีล ก็ต้องผิดหวัง
เหตุผลหลักของนักเลือกตั้ง ที่ขอเลือกอนาคตที่มั่นคงของตัวเอง เพราะไม่ต้องการลุ้นชะตากรรม ที่ “เพื่อไทย” กำลังโดนเล่นงานด้วยคดี “ยุบพรรค” ที่นักร้องเรียนหลายรายไปยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ส่งเรื่องไปยัง “ศาลรัฐธรรมนูญ”
เรื่องที่อ่อนไหวที่สุดคือ กรณีคลิปเสียง “ทักษิณ” ครอบงำพรรค เข้าข่ายขัดต่อ พ.ร.ป. พรรคการเมืองมาตรา 29 หรือไม่
รวมทั้งกรณีแต่งตั้ง “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นั่ง ผอ.พรรคเพื่อไทย ซึ่งสุ่มเสี่ยงขัดกับข้อบังคับพรรคเสียเอง ที่ห้ามบุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุก และพ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีมาเป็นสมาชิกพรรค
เช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล ที่แม้จะไม่มีปัญหาในการดึง-ดูด ส.ส.จากพรรคอื่น แต่อาจต้องมีแผนสำรอง เตรียมทางหนีทีไล่ให้ดี เพราะอาจเผชิญปัญหาข้อกฎหมาย ในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องร้องยุบพรรคอีกครั้ง
กรณี “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่น กกต. วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ฐานส่งเสริม สนับสนุน การอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ จากบรรทัดฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการชุมนุมของ “ม็อบ 3 นิ้ว” เป็นการล้มล้างการปกครอง
เมื่อฝ่ายค้านหลัก ทั้ง “เพื่อไทย-ก้าวไกล” มีชนักติดหลังเรื่องคดียุบพรรคจึงเป็นความเสี่ยงต่ออนาคตการเมือง
แม้คีย์แมนเพื่อไทยจะมั่นใจว่า กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่งผลให้มีโอกาสได้กลับมาเป็นรัฐบาลได้ไม่ยาก แต่ในมุมมองของนักเลือกตั้งไม่เชื่อว่า “ประยุทธ์-เครือข่าย คสช.” จะ “ตีไพ่โง่” หากไม่มีทีเด็ดซ่อนเอาไว้
“กลเกมยุบพรรค” จึงถูกจับตาว่าอาจเป็นไม้ตาย เอาไว้จัดการ 2 พรรคแกนนำฝ่ายค้าน
หากดูไทม์ไลน์ กระบวนการยุบพรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล ตามคำร้อง แม้เส้นทางยังอีกยาวไกล ยากเกินกว่าจะคาดเดา แต่นักเลือกตั้งไม่ไว้ใจในสถานการณ์ที่ 2 ขั้วสู้กันแรง
เริ่มมีการทำนายกันแล้วว่า จังหวะการ “ยุบพรรค” ที่เป็นผลพลิกเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือหลังจากที่ “พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส.” ประกาศบังคับใช้ จะทำให้สถานะผู้สมัคร ส.ส.กลายเป็นโมฆะทันที
เงื่อนปมความเสี่ยง ชะตากรรมซ้ำรอย“ไทยรักษาชาติ” จึงเป็นเหตุให้ปฏิบัติการ “ดูดกลับ-ดีลลับ" ของคนแดนไกลและเพื่อไทยพลิกผันเป็น "ดูดไม่กลับ-ดีลล่ม"!
แหล่งข่าว จับจังหวะเสี่ยง“ยุบพรรค” “เพื่อไทย”ดูดไม่กลับ-ดีลล่ม, bangkokbiznews, 26 พ.ย. 2564