ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า จากกรณีที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่า ขณะนี้ ราคาเนื้อหมูไม่ได้แพงขึ้นจากปีก่อน โดยราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มยังไม่เกินกิโลกรัม (กก.) ละ 80 บาท ส่วนหมูเนื้อแดงไม่ตัดแต่งเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 135-140 บาท และราคาในห้างค้าปลีกค้าส่งเพียง กก.ละ 119-122 บาทนั้น ล่าสุด ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และพ่อค้าแม่ค้าร้านอาหารหลายแห่งว่า ไม่พบราคาเนื้อหมูที่ กก.ละ 122 บาทตามที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจง โดยราคาที่ขายในตลาดสดปรับขึ้นมาอยู่ที่ กก.ละ 160-170 บาท และหากเป็นพื้นที่ห่างไกล เช่น ภาคอีสานขายสูงถึง กก.ละ180บาท ส่วนหมูสามชั้น ขึ้นไปถึง กก.ละ 180-190 บาท ดังนั้น จึงต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ระบุสถานที่ที่ขายหมูเนื้อแดงราคาถูกให้ชัดเจนกว่านี้
ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ไม่ได้เป็นตัวการทำให้ราคาปศุสัตว์แพงขึ้น โดยราคาอาหารสัตว์ ที่เพิ่มมาจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี มาตั้งแต่ต้นปี 64 ประมาณ 15%จนกระทบต่อต้นทุนการเลี้ยงของเกษตรกร ทำให้ราคาเนื้อหมู เนื้อไก่ไข่ไก่แพงขึ้นตาม ส่วนแนวทางการแก้ไขนั้น ผู้ผลิตอาหารสัตว์คงไม่สามารถตรึงราคาขายเหมือนที่กระทรวงพาณิชย์เคยขอความร่วมมือก่อนหน้านี้ เพราะครั้งนี้เป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก และต้นทุนต่างๆก็ขึ้นมามากสุดในรอบ 10 ปี เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ล่าสุดอยู่ที่ กก.ละ 11 บาท จากในช่วงปกติ กก.ละ 8 บาท หากตรึงราคาขายผู้ผลิตก็อยู่ไม่ได้ และทำลายวงจรการเกษตรให้พังไปด้วย
แหล่งข่าว ชาวบ้านร้องหาซื้อเนื้อหมูโลละ 120 บาท, ไทยรัฐ, 11 พ.ย. 2564