ดอลลาร์ขยับขึ้นในวันอังคารหลังจากร่วงลงก่อนหน้า ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อซึ่งอาจให้แนวโน้วของเฟดต่อการดำเนินการเฟดในเดือนกันยายน
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.047% ที่ 106.38 ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงจากคำเตือนของผลประกอบการของบริษัท ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อทั่วโลก และผลิตภาพแรงงานสหรัฐที่ลดลงอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สอง
จุดสนใจหลักสำหรับผู้ค้าคือรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐที่จะออกมาในวันพุธ ซึ่งคาดว่าจะคลายตัวลงหลังพุ่งสูงสุดในรอบหลายสิบหลังจากเฟดปรับขึ้น 75 จุดติดต่อกันในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ขณะที่ด้านตลาดเงินฟิวเจอร์สยังคง price in มากกว่าสองในสามสำหรับการปรับขึ้น 75 bps ในเดือนหน้า
“เราได้รับรายงานเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินคาดมาโดยตลอด และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ตลาดน่าจะช็อค” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Oanda กล่าว “และดอลลาร์กับยูโรอาจเท่ากันอีกครั้ง”
ยูโรเพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 1.0204 ดอลลาร์ สเตอร์ลิงลดลง 0.12% เป็น 1.2065 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.14 ที่ 135.195 เยน
นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีต่อปีจะอยู่ที่ 8.7% ซึ่งค่อนข้างสูง แต่ต่ำกว่าตัวเลข 9.1% ของเดือนที่แล้ว
ช่องว่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 และ 10 ปี ขยายมากที่สุดในรอบสองทศวรรษ Colin Asher นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Mizuho กล่าวว่า "เส้นอัตราผลตอบแทนของสหรัฐที่กลับด้าน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่ตลาดตราสารทุนเชื่อว่าเฟดเตรียมจะหยุดกระชับนโยบายเร็วนี้ แต่ฉันคิดว่าข้อมูล CPI จะชี้ให้เห็นว่าเฟดจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ ซึ่งจะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”
อย่างไรก็ตาม ยังคงยากที่จะคาดเดาต่ออนาคตของดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเติบโตและความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนขยายการซ้อมรบทางทหารเข้าใกล้ไต้หวัน
ดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.41% สู่ 0.6955 ดอลลาร์ และดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่าลง 0.14% สู่ 0.62765 ดอลลาร์
แหล่งข่าว Dollar edges higher as traders await U.S. inflation report โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
