ดอลลาร์และผลตอบแทนสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเอเชียในวันพุธจากกระแสการทำ Tapering ขณะที่หุ้นเอเชียซื้อขายลดลงจากความกลัวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา แม้วอลล์สตรีทปิดสูงเป็นประวัติการณ์ ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ขณะที่ค่าเงินยูโรใกล้ระดับต่ำสุดของปีจนถึงปัจจุบันเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.08% ในการซื้อขายในเอเชีย โดยบลูชิปของจีนลดลง 0.38% KOSPI ลดลง 0.37%
ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐทำให้เกิดกระแสเชิงลบจากเฟดที่เตรียมหาหรือการลด QE ในปลายปีนี้ ดันผลตอบแทนและดอลลาร์สูงขึ้น ขณะที่ ในเอเชีย Farris หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนในเอเชียใต้ Credit Suisse กล่าว "เอเชียมีข้อกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำ Tapering ทั้งนี้ ข้อกังวลสำคัญคือการแพร่ระบาดของไวรัสท่ามการอัตราการฉีดวัคซีนในเอเชียที่ยังคงต่ำ”
ดัชนีออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.61% โดยได้รับความช่วยเหลือจากการประกาศซื้อคืนหุ้นของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง Commonwealth Bank of Australia พร้อมผลประกอบการประจำปี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.57%
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากผลตอบแทนพันธบัตรแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 1.3610%
ดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดบวกสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากหุ้นมูลค่าที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจขยายตัวจากการที่วุฒิสภาสหรัฐผ่านแพ็คเกจโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์และเตรียมผ่านไปยังสภาผู้แทนราษฎร
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อทองคำ โดยสปอตทองคำตกลง 0.2% ราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นในการซื้อขายในเอเชีย โดยเพิ่มขึ้น 2% ในวันอังคาร จากสัญญาณความต้องการเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ น้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 0.01% น้ำมันดิบเบรนต์ทรงตัว
แหล่งข่าว Dollar, U.S. yields gain, Asian shares held back by Delta worries โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand