ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 พ.ย.64 ปิดที่ 1,626.13 จุด ลบ 0.09 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 86,639.98 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,764.79 ล้านบาท
หุ้นไทยปรับตัวลงเล็กน้อยจากแรงขายหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมทั้งแรงกดดันจากหุ้น DELTA กังวลถูกถอดออกจากการคำนวณ ดัชนี SET50/100 หากตลาดหลักทรัพย์ฯปรับเกณฑ์การคำนวณใหม่
บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดฯอยู่ในช่วงปรับเกณฑ์เพื่อสร้างเสถียรภาพให้ดัชนีต่างๆทั้งจากการเปิดรับฟังความเห็น ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นร้อนแรง ยกระดับความเข้มข้นมาตรการระดับ 1, 2 และ 3
ฝ่ายวิจัยฯเห็นด้วยกับตลาดฯเนื่องจากปี 64 (ytd) มีจำนวนหุ้นที่ซื้อขายร้อนแรงจนติด Cash Balance สูงถึง 326 บริษัท เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตัว จากปี 63 และประเด็นนี้น่าจะช่วยสร้างเสถียรภาพ และน่าจะไม่กระทบต่อภาพรวมตลาดมากนัก เนื่องจากหุ้นที่ติด Cash Balance ที่คงค้างมีสัดส่วนรวมไม่ถึง 1% ของ Market Cap รวมของตลาด
และล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯได้สรุปผลการรับฟังการคำนวณเกณฑ์ดัชนี SET50-SET100 ใหม่ คือเห็นด้วยกับการปรับใช้ทั้ง 2 กรณี เนื่องจากจะช่วยลดความผันผวนของดัชนีอ้างอิงหรือ Benchmark ที่กองทุนนิยมใช้ จากหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติได้ โดยตลาดฯจะเริ่มใช้เกณฑ์เชิงคุณภาพ (เพิ่มเกณฑ์ Cash Balance มาเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์สภาพคล่อง) ในการคำนวณรอบครึ่งปีแรก 65 ที่จะถึงนี้เลย
ส่วนเกณฑ์ Free Float Adj. อยู่ในช่วงจัดทำนิยามและความหมายของ Strategic partner ให้ชัดเจนเพื่อความราบรื่นในการเปลี่ยนผ่านในระยะถัดไป
ประเมินหุ้นที่ได้หรือเสียประโยชน์ ดังนี้ 1.หุ้นใน SET100 ที่ติด Cash Balance หรือ Trading Alert บ่อยอาจถูกกดดันหรือมูลค่าซื้อขายลดลง เช่น หุ้น DELTA เนื่องจากติด Cash Balance ไป 7 เดือน เหลือเดือนในการคำนวณเกณฑ์สภาพคล่องเพียง 5 เดือน เกณฑ์ขั้นต่ำคือ 6 เดือน เป็นต้น
2. หุ้นใหญ่ที่มี Free Float น้อย มีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น เนื่องจากผ่อนคลายจากการที่ยังไม่ใช้เกณฑ์ Free Float Adj. ในรอบนี้ มีหุ้นได้ประโยชน์อันดับต้นๆ ที่ชื่นชอบคือหุ้น AOT, GULF, OR, ADVANC, PTTEP, GPSC, BJC
โดยฝ่ายวิจัยฯแนะนำหุ้นที่มีโอกาสสูงที่จะเข้าคำนวณดัชนีในรอบครึ่งแรกปี 65 อย่าง TIDLOR, BLA และ AOT เป็นอันดับต้นๆ!!
แหล่งข่าว ตลาดปรับเกณฑ์คุมหุ้นร้อน, ไทยรัฐ, 9 พ.ย. 2564