Menu
Forums
New posts
Search forums
What's new
New posts
Blog
Latest activity
Members
Current visitors
เกี่ยวกับเรา
Groups
Search groups
Upcoming events
ภาษา (🇺🇸 🇹🇭)
Log in
Register
What's new
Search
Search
Search titles only
By:
New posts
Search forums
Menu
Log in
Register
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
ทรัมป์ หรือ ไบเดน ไม่ว่าใครดอลลาร์ก็อ่อนค่า - 3 พฤศจิกายน 2563
JavaScript is disabled. For a better experience, please enable JavaScript in your browser before proceeding.
Reply to thread
Message
<p>[QUOTE="Jettarin.Su, post: 449, member: 14"]</p><p>[ATTACH=full]466[/ATTACH]</p><p></p><p>กลุ่มนักวิเคราะห์และบรรดานักลงทุน ระบุว่า ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งนี้ดูจะส่งผลระยะยาวต่อค่าเงินดอลลาร์ ที่ไม่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นได้ไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม</p><p>และถึงแม้จะเห็นการดีดกลับของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ แต่ในความเป็นจริงดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่ามาแล้วกว่า 9% นับตั้งแต่ที่ทำแข็งค่ามากสุดไว้ในดือนมีนาคม และเป็นปีที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 โดยมีสาเหตุมาจากกระแสคาดการณ์การคงดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ของเฟดที่จะเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปี</p><p></p><p>หลายๆตลาดเชื่อว่าชัยชนะของไบเดน ตามโพลล์ต่างๆ และโอกาสที่เดโมแครตจะกลับมาครองเสียงข้างมากจะกดดันดอลลาร์ ท่ามกลางการเปิดกว้างต่อนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ขณะที่ การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตลอด 4 ปีนี้ของทรัมป์อาจส่งผลกดดันต่อดอลลาร์น้อยกว่า และอาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกลายเป็น Safe-Haven ด้วยซ้ำจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน แต่ตลาดก็จะถูกกดดันจากปัจจัยลบในเรื่อง อัตราดอกเบี้ยแท้จริงอยู่ในระดับติดลบ</p><p>ผลสำรวจจาก Reuters สะท้อนว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด ค่าเงินยูโรมีโอกาสแข็งค่าแตะ 1.21 ดอลลาร์/ยูโรในปีนี้ หรือปรับเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 4% จากระดับปัจจุบัน</p><p>ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางดอลลาร์ในระยะยาว รายละเอียดดังนี้</p><p></p><p>ในหลายปีมานี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีนโยบายดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วที่อื่นๆ จึงถือเป็นปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์มีความน่าดึงดูด ประกอบกับนักลงทุนมองหาอัตราผลตอบแทนพันธบัตร</p><p>อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงในปีนี้โดยทำให้นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนน่าสนใจยิ่งขึ้น</p><p>อัตราดอกเบี้ยแท้จริง หรือตัวชี้วัดเงินเฟ้อ อันเป็นส่วนหนึ่งของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ที่มีการเคลื่อนไหวต่ำกว่าศูนย์ในปีนี้จากการระบาดของไวรัสโคโรนา และกดดันให้ดอลลาร์ไม่น่าดึงดูดใจ แต่กระตุ้นการเคลื่อนไหวในสินทรัพย์อื่นๆแทน เช่น หุ้น และทองคำ</p><p>ผลสำรวจจาก Reuters ในเดือนกันยายนแสดงให้เห็นว่า บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯจะปรับัตวขึ้นแตะ 0.93% ภายในช่วง 1 ปี หรือเป็นครึ่งหนึ่งของเงินเฟ้อ ที่สะท้อนว่าอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ระดับติดลบจะเกิดขึ้นในปีหน้านี้</p><p>การเดิมพันสุทธิเมื่อเทียบกับดอลลาร์อยู่ที่ 26,460 พล้านดอลลาร์ในตลาดฟิวเจอร์สเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ 34,070 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม สถานะสั้น ๆ นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นเชิงลบรอบ ๆ ดอลลาร์</p><p>ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้ง นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าทรัมป์ชนะหรือแบ่งรัฐบาลซึ่งอาจส่งผลให้มาตรการกระตุ้นทางการคลังน้อยลงหรือล่าช้าลง</p><p>ฉันทามติของตลาดดูเหมือนจะพึ่งพาการชนะไบเดนเป็นอย่างมาก นักวิเคราะห์จากหลักทรัพย์ TD กล่าวว่า ชัยชนะของทรัมป์จะเป็นผลกำไรอย่างมหาศาลสำหรับดอลลาร์</p><p></p><p><em>แหล่งข่าว Trump or Biden, investors expect a weaker dollar โดย Reuters</em></p><p><em></em></p><p><em><strong>แปลโดยทีม TradersThailand</strong></em></p><p>[/QUOTE]</p>
[QUOTE="Jettarin.Su, post: 449, member: 14"] [ATTACH type="full"]466[/ATTACH] กลุ่มนักวิเคราะห์และบรรดานักลงทุน ระบุว่า ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งนี้ดูจะส่งผลระยะยาวต่อค่าเงินดอลลาร์ ที่ไม่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นได้ไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม และถึงแม้จะเห็นการดีดกลับของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ แต่ในความเป็นจริงดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่ามาแล้วกว่า 9% นับตั้งแต่ที่ทำแข็งค่ามากสุดไว้ในดือนมีนาคม และเป็นปีที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 โดยมีสาเหตุมาจากกระแสคาดการณ์การคงดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ของเฟดที่จะเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปี หลายๆตลาดเชื่อว่าชัยชนะของไบเดน ตามโพลล์ต่างๆ และโอกาสที่เดโมแครตจะกลับมาครองเสียงข้างมากจะกดดันดอลลาร์ ท่ามกลางการเปิดกว้างต่อนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ขณะที่ การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตลอด 4 ปีนี้ของทรัมป์อาจส่งผลกดดันต่อดอลลาร์น้อยกว่า และอาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกลายเป็น Safe-Haven ด้วยซ้ำจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน แต่ตลาดก็จะถูกกดดันจากปัจจัยลบในเรื่อง อัตราดอกเบี้ยแท้จริงอยู่ในระดับติดลบ ผลสำรวจจาก Reuters สะท้อนว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด ค่าเงินยูโรมีโอกาสแข็งค่าแตะ 1.21 ดอลลาร์/ยูโรในปีนี้ หรือปรับเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 4% จากระดับปัจจุบัน ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลต่อทิศทางดอลลาร์ในระยะยาว รายละเอียดดังนี้ ในหลายปีมานี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีนโยบายดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้วที่อื่นๆ จึงถือเป็นปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์มีความน่าดึงดูด ประกอบกับนักลงทุนมองหาอัตราผลตอบแทนพันธบัตร อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงในปีนี้โดยทำให้นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนน่าสนใจยิ่งขึ้น อัตราดอกเบี้ยแท้จริง หรือตัวชี้วัดเงินเฟ้อ อันเป็นส่วนหนึ่งของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ที่มีการเคลื่อนไหวต่ำกว่าศูนย์ในปีนี้จากการระบาดของไวรัสโคโรนา และกดดันให้ดอลลาร์ไม่น่าดึงดูดใจ แต่กระตุ้นการเคลื่อนไหวในสินทรัพย์อื่นๆแทน เช่น หุ้น และทองคำ ผลสำรวจจาก Reuters ในเดือนกันยายนแสดงให้เห็นว่า บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯจะปรับัตวขึ้นแตะ 0.93% ภายในช่วง 1 ปี หรือเป็นครึ่งหนึ่งของเงินเฟ้อ ที่สะท้อนว่าอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ระดับติดลบจะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ การเดิมพันสุทธิเมื่อเทียบกับดอลลาร์อยู่ที่ 26,460 พล้านดอลลาร์ในตลาดฟิวเจอร์สเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ 34,070 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม สถานะสั้น ๆ นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นเชิงลบรอบ ๆ ดอลลาร์ ความไม่แน่นอนของการเลือกตั้ง นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าทรัมป์ชนะหรือแบ่งรัฐบาลซึ่งอาจส่งผลให้มาตรการกระตุ้นทางการคลังน้อยลงหรือล่าช้าลง ฉันทามติของตลาดดูเหมือนจะพึ่งพาการชนะไบเดนเป็นอย่างมาก นักวิเคราะห์จากหลักทรัพย์ TD กล่าวว่า ชัยชนะของทรัมป์จะเป็นผลกำไรอย่างมหาศาลสำหรับดอลลาร์ [I]แหล่งข่าว Trump or Biden, investors expect a weaker dollar โดย Reuters [B]แปลโดยทีม TradersThailand[/B][/I] [/QUOTE]
Preview
Name
Verification
Post reply
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
ทรัมป์ หรือ ไบเดน ไม่ว่าใครดอลลาร์ก็อ่อนค่า - 3 พฤศจิกายน 2563
Top