ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันที่สามติดต่อกันสู่ระดับ 1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพยายามทะลุ 1,800 ดอลลาร์ไม่สำเร็จอีกครั้ง สวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมาก สะท้อนแรงกดดันขาลง ปูทางสำหรับการลดลงในพื้นที่ 1,500-1,600 ในช่วงกลางปีหน้า
ทองคำพยายามไม่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่สามที่จะทะลุ 200 SMA ในช่วงต้นสัปดาห์ และตอนนี้ตลาดหมีกำลังเพิ่มแรงกดดันในพื้นที่ทางเทคนิคที่สำคัญ 1,790 ผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ทำหน้าที่เป็นเส้นสัญญาณสำหรับแนวโน้มระยะกลาง ราคาที่อยู่ใต้เส้นนี้แสดงถึงการครอบงำขาลง แนวรับของแนวโน้มขาขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1,800 ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้มีสัญญาณของแนวต้านที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ราคาทองคำไม่สูงขึ้น
โดยพื้นฐานแล้ว วัฏจักรเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการซื้อทองคำเช่นกัน สถานการณ์ปัจจุบันเทียบได้กับช่วงปลายปี 2555/ต้นปี 2556 ที่ธนาคารกลางทั่วโลกลดการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของวัฏจักร มีระยะเวลา 5 ปีจาก 10 ปี เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นจากการทำ QE กว่าห้าเดือน
การปรับฐานของราคาทองคำจากจุดสูงสุดในปี 2554 ลงสู่จุดต่ำสุด ณ สิ้นปี 2557 ใช้เวลาประมาณ 50% ของการปรับฐาน การปรับฐานตามสัดส่วนสร้างอาจทำให้ราคาลดลงไปที่ 1,560 ดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้กำไรจากเดือนเมษายน-สิงหาคม 2563หายไปทั้งหมด
นับจากนี้ เราได้เห็นการตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจและการเงินที่เร็วขึ้นมากด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การปรับฐานข้างต้นอาจหดตัวจาก 3 ปีหลังจากแนวโน้มขาขึ้นทะลุเป็น 2-3 ไตรมาส นั่นคือจุดต่ำสุดจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกหรือไตรมาสที่สองของปี 2565
แหล่งข่าว Gold confirms the bearish scenario โดย The FxPro Analyst Team
แปลโดยทีม TradersThailand
ทองคำพยายามไม่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่สามที่จะทะลุ 200 SMA ในช่วงต้นสัปดาห์ และตอนนี้ตลาดหมีกำลังเพิ่มแรงกดดันในพื้นที่ทางเทคนิคที่สำคัญ 1,790 ผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันที่ทำหน้าที่เป็นเส้นสัญญาณสำหรับแนวโน้มระยะกลาง ราคาที่อยู่ใต้เส้นนี้แสดงถึงการครอบงำขาลง แนวรับของแนวโน้มขาขึ้นอยู่ที่ประมาณ 1,800 ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้มีสัญญาณของแนวต้านที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ราคาทองคำไม่สูงขึ้น
โดยพื้นฐานแล้ว วัฏจักรเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการซื้อทองคำเช่นกัน สถานการณ์ปัจจุบันเทียบได้กับช่วงปลายปี 2555/ต้นปี 2556 ที่ธนาคารกลางทั่วโลกลดการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ระหว่างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของวัฏจักร มีระยะเวลา 5 ปีจาก 10 ปี เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นจากการทำ QE กว่าห้าเดือน
นับจากนี้ เราได้เห็นการตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจและการเงินที่เร็วขึ้นมากด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การปรับฐานข้างต้นอาจหดตัวจาก 3 ปีหลังจากแนวโน้มขาขึ้นทะลุเป็น 2-3 ไตรมาส นั่นคือจุดต่ำสุดจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกหรือไตรมาสที่สองของปี 2565
แหล่งข่าว Gold confirms the bearish scenario โดย The FxPro Analyst Team
แปลโดยทีม TradersThailand