เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุถึงข้อมูลที่ส่งต่อเกี่ยวกับ ธปท. ลดค่าคุ้มครองเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท/ราย เพราะสถาบันการเงินเสี่ยงล้ม ว่ากระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลบิดเบือน
โดยพบว่ามีการส่งต่อคำแนะนำว่า ให้รีบถอนเงินออกจากธนาคาร เพราะแบงก์ชาติประกาศคุ้มครองเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝาก หากมีเงินฝากมากกว่า 1 ล้านบาท แล้ววันหนึ่งธนาคารล้มขึ้นมา คุณจะได้เงินแค่ 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และกระทรวงการคลังได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ข้อเท็จจริงมีดังนี้
1. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ DPA เป็นผู้ประกาศปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก มิใช่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีการปรับลงมาอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อบัญชีต่อรายสถาบันการเงิน จากเดิมอยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อบัญชีต่อรายสถาบันการเงิน ซึ่งการปรับลดวงเงินคุ้มครองดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ 2 เรื่องหลัก คือ การรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และการคุ้มครองผู้ฝากเงินรายย่อย ซึ่งไม่ได้เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 และปรับลดวงเงินคุ้มครองแต่อย่างใด
2. ในปัจจุบันฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังแข็งแกร่ง มีการดำเนินงานด้วยความระมัดระวัง และมีธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นผู้ประกาศปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก มิใช่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อการรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และการคุ้มครองผู้ฝากเงินรายย่อย อีกทั้งในปัจจุบันฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังแข็งแกร่ง มีธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ข้อมูลที่ส่งต่อกันในขณะนี้เป็นข้อมูลบิดเบือน
แหล่งข่าว ธนาคารไทยฐานะการเงินแข็งแกร่ง วอนหยุดแชร์ข่าวสถาบันการเงินเสี่ยงล้ม, ไทยรัฐ, 9 ส.ค. 2564