ธุรกิจประกันอ่วมขาดทุน Q3/64 วิกฤติกระทบความเชื่อมั่น

WealthUp

Moderator
Staff member
Optimized-14.jpg

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า ยอดขายประกันโควิดปี 2563 – ส.ค.2564 มียอดกรมธรรม์สะสมสูงถึง 39.86 ล้านฉบับ เบี้ยประกันภัยสะสมรวม 11,250 ล้านบาท ขณะที่ยอดเคลมประกันในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงในไทยเพิ่มขึ้นรายเดือน

โดยยอดจ่ายค่าสินไหมทนแทนสะสม เดือน เม.ย. 2564 อยู่ที่ 308.96 ล้านบาท เดือนพ.ค. 1,143.09 ล้านบาท เดือนมิ.ย. 2,050.49 ล้านบาท เดือนก.ค. 3,996.22 ล้านบาท และเดือนส.ค.สูงถึง 9,428.63 ล้านบาท และภาพรวมสิ้นเดือน ต.ค. 2564 ยอดจ่ยสินไหมทดแทนน่าจะสูงกว่า 30,000 ล้านบาท ส่งผลทำให้สินปี 2564 คาดการณ์ว่าตัวเลขมีโอกาสขึ้นถึง 40,000 ล้านบาท

กำไรล่าสุดไตรมาส 3 ปี 2564 หลายบริษัททั้งขนาดใหญ่และเล็กเผชิญการขาดทุนเป็นครั้งแรกก็ว่า

รายใหญ่ที่เผชิญขาดทุน “กรุงเทพประกันภัย” หรือ BKI อยู่ที่ 885 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไร 761 ล้านบาท หรือติดลบ 216 % เป็นการขาดทุนครั้งแรกของบริษัท เป็นผลมาจากการจ่ายมาจากค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้น 128 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 4,397.7 ล้านบาท เปรียบเทียบ ปี 2563 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 22,858.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% มีกำไรสุทธิ 2,705.6 ล้านบาททำให้บริษัทมีมติ จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 15 บาทต่อหุ้น สำหรับปี 2563

“เครือไทย โฮลดิ้ง ” หรือ TGH ของกลุ่มอาคเนย์ หนึ่งในธุรกิจของกลุ่มตระกูล “สิริวัฒนภักดี ” ขาดทุน 662 ล้านบาท ติดลบ 843 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไร 89 ล้านบาท ซึ่งบริษัทระบุได้รับผลกระทบจากธุรกิจประกันชีวิตมีกำไรลดลง 89 ล้านบาท หลังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินลงทุน ธุรกิจ ประกันภัย มีค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยเพิ่มขึ้นตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจาก การรับประกันโควิด-19

ที่ขาดทุนหนักมากที่สุด “สินมั่นคงประกันภัย” งวดดังกล่าวอยู่ที่ 3,662 ล้านบาท ติดลบ 2,388 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 160 ล้านบาท มาจากค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 7,552.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,309.89 ล้านบาท หรือ 236.76 % จากงวดเดียวกันของปี ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่มาจากค่าสินไหมทดแทนในไตรมาสดังกล่าวสูงถึง 339 % หรือ 6,815.69 ล้านบาท เป็นค่าสินไหมทดแทนโควิด 6,002.91 ล้านบาท และค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่นๆ 812.78 ล้านบาท

สำหรับค่ายประกันที่ไม่เผชิญการขาดทุนแต่กำไรลดลงอย่างชัดเจน “ไทยรีประกันชีวิต” หรือ THREL มีกำไรในงวดนี้ 20ล้านบาทลดลง 45.94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ปัจจัยหลักค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น 34 % รวม 764 ล้านบาท แบ่งเป็นการตั้งสำรองค่าสินไหมทดแทนโควิด 100 ล้านบาท

และ “ทิพย์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง” หรือ TIPH ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ “ทิพยประกันภัย” มีกำไร 378 ล้านบาทลดลง 31.52 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นของค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายการจัดการกรมธรรม์ประกันภัยโควิด และยังประเมินว่าสถานะของบริษัทยังมีความสามารถควบคุมได้ เนื่องจากกรมธรรม์ที่ขายคุ้มครองเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยภาวะโคม่าจากโควิด และไม่ได้ขายกรมธรรม์ประเภท “เจอ จ่าย จบ” ในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่หลายบริษัทยังเดินหน้าทำกำไรเพิ่มได้อย่างต่อเนื่องและสวนกระแสอุตสาหกรรมในปีนี้ “เมืองไทยประกันภัย” หรือ MTI มีกำไรอยู่ที่ 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.89 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งผลกระทบจากการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหลังมีการขายกรมธรรม์โควิดถึงกลางไตรมาส 3 ปี 2564 เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่มีการจัดทำประกันภัยต่อไปยังบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศทำให้ลดผลกระทบได้ เช่นเดียวกับ “กรุงเทพประกันชีวิต” หรือ BLA มีกำไร 1,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากรายได้จากการลงทุนเพิ่มขึ้นและการสำรองประกันภัยที่ลดลง

แหล่งข่าว ธุรกิจประกันอ่วมขาดทุน Q3/64 วิกฤติกระทบความเชื่อมั่น, bangkokbiznews, 20 พ.ย. 2564
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top