ดัชนี S&P 500 ลดลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2563 ในเดือนกันยายนและถอยกลับลงมาต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลถึง 5% เป็นครั้งแรกในปีนี้
หุ้นผันผวนเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน การอภิปรายเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ชะตากรรมของร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการล่มสลายของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนซึ่งอย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 ยังคงเพิ่มขึ้น 16% ในปีนี้
อัตราผลตอบแทนซึ่งเคลื่อนไหวผกผันกับราคาพันธบัตรกำลังดีดตัวขึ้นจากระดับที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ และการไต่ขึ้นครั้งล่าสุดซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ
หุ้นและพันธบัตรอาจเป็นตัวชี้นำในสัปดาห์หน้าจากความคืบหน้าในวอชิงตัน ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติยังคงอภิปรายเรื่องแพ็คเกจการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงรายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ ในวันศุกร์หน้าในวันศุกร์หน้า
ในบรรดาตัวชี้วัดที่นักลงทุนใช้ในการวัดทิศทางของหุ้นในอนาคตคือส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 2 ปีและ 10 ปี บางคนมองว่านี่เป็นบารอมิเตอร์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหรือร้อนจัด
Ed Clissold หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่ Ned Davis Research เปิดเผยว่า ค่าสเปรดระหว่างศูนย์ถึง 150 คะแนนเป็น “จุดที่น่าสนใจ” สำหรับหุ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลตอบแทน 11% ต่อปีสำหรับ S&P 500 โดยอิงจากข้อมูลในอดีต
S&P 500 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 9.1% ต่อปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 ตามข้อมูลของ Stovall ของ CFRA
ดัชนีเทคโนโลยี S&P 500 ลดลง 2% เทียบกับการลดลง 0.9% สำหรับดัชนีโดยรวมนับตั้งแต่การประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความอ่อนแอในภาคเทคโนโลยี ซึ่งคิดเป็น 27% ใน S&P 500 และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอื่นๆ อาจสร้างปัญหาให้กับดัชนีในวงกว้าง
นักลงทุนจำนวนมากยังคงมองว่าหุ้นมีความน่าสนใจมากกว่าพันธบัตรแม้ว่าอัตราผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นก็ตาม Keith Lerner หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนร่วมของ Truist Advisory Services กล่าว ระดับพรีเมียมในอดีตอยู่ที่ระดับที่ปิดในวันพุธ S&P 500 และสามารถเอาชนะผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีโดยเฉลี่ยที่ 10.2% ขณะที่ Matt Peron ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Janus Henderson Investors กล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนในระดับหนึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดตราสารทุน”
แหล่งข่าว Bruised market eyes Treasury yields to gauge stocks' path โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand