นักลงทุนต่างจับจ้องไปที่หุ้นของผู้ค้าปลีกรายใหญ่ เนื่องจากฤดูกาลจับจ่ายซื้อของในวันหยุดของสหรัฐฯ จะเริ่มในสัปดาห์นี้ วัน Black Friday หลังวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ ถือเป็นวันเริ่มต้นของช่วงการช็อปปิ้งในวันหยุดอย่างไม่เป็นทางการและเป็นหนึ่งในวันช้อปปิ้งที่คึกคักที่สุดของปี ท่ามกลางการแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์รายงานว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมยังสามารถเพิ่มขึ้นได้
กิจกรรมส่งเสริมการขายโดยเฉลี่ยในวัน Black Friday นั้นต่ำกว่าในปีก่อนหน้า ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Refinitiv และ StyleSage Co สะท้อนว่าผู้บริโภคอาจไม่เห็นการลดราคาแบบที่ผ่านมา
ผู้ค้าปลีกหลายรายทำผลงานได้ดีในปีนี้ กองทุน ETFs S&P เพิ่มขึ้น 54% ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม เทียบกับ 25% ในดัชนี S&P 500 ในรอบปี Refinitiv ยังคาดการณ์การทำผลเงินที่เป็นบวกในหลายบริษัท อาทิ Crocs Inc , Williams-Sonoma, Lowe's Cos, Home Depot, Lululemon Athletica และ Target โดยมีผู้นำในแง่กำไรแบบรายวัน ได้แก่ Bath & Body Works, Tractor Supply, Autozone และ Etsy
อย่างไรก็ตาม นักยุทธศาสตร์กล่าวว่าระดับสินค้าคงคลังอาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ค้าปลีกบางรายในฤดูกาลช็อปปิ้งนี้ ในสัปดาห์นี้ Gap Inc. ปรับลดประมาณการทั้งปีลงท่ามกลางการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรวมถึงการปิดโรงงาน และสต็อกของบริษัทที่ลดลงประมาณ 23% ในวันพุธ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Walmart Inc ได้เพิ่มยอดขายประจำปีและการคาดการณ์กำไร แต่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกกำลังเขย่าอัตรากำไรในไตรมาสที่สาม
Refinitiv เน้นย้ำไปที่ Amazon.com ซึ่งน่าจะเป็นบริษัทที่สามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาการชะงักของอุปทานได้ดี รองลงมา ได้แก่ Target Walmart และ Costco
หุ้นของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ก็จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเช่น Macy's, Kohl's และ Nordstrom รวมถึงบริษัทที่มีแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคเช่น Apple ด้วย ขณะที่ Macy's ส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ามีสต๊อกสินค้าเพียงพอสำหรับเทศกาลวันหยุด
แหล่งข่าว Investors watch retail stocks as U.S. holiday shopping beckons โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand