Menu
Forums
New posts
Search forums
What's new
New posts
Blog
Latest activity
Members
Current visitors
เกี่ยวกับเรา
Groups
Search groups
Upcoming events
ภาษา (🇺🇸 🇹🇭)
Log in
Register
What's new
Search
Search
Search titles only
By:
New posts
Search forums
Menu
Log in
Register
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
นักวิเคราะห์ชั้นนำของวอลล์สตรีทวิเคราะห์หุ้นที่อาจ upside หลังรายงานผลประกอบการ - 30 ส.ค. 2564
JavaScript is disabled. For a better experience, please enable JavaScript in your browser before proceeding.
Reply to thread
Message
<p>[QUOTE="WealthUp, post: 3584, member: 27"]</p><p style="text-align: center">[ATTACH=full]3727[/ATTACH]</p><p>หุ้น 5 ตัวที่นักวิเคราะห์ที่มีผลงานดีที่สุดของวอลล์สตรีทและคาดว่าจะ upside ที่สำคัญหลังรายงานผลประกอบการ</p><p></p><p>1. Microsoft จากอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นในสหรัฐ Daniel Ives จาก Wedbush Securities กล่าวว่าเขาเห็นแนวโน้มการทำงานจากที่บ้านยังคงมีอยู่ หลังจากแสดงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งตลอดปี 2563 และครึ่งแรกของปี 2021 Microsoft ยังคงปิดดีลขนาดใหญ่สำหรับแพ็คเกจบริการบนคลาวด์ทั้งในระดับองค์กรและระดับผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับ Microsoft ในปี 2565 Ives คงอันดับซื้อหุ้นและปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 325 ดอลลาร์เป็น 350 ดอลลาร์</p><p>จากนักวิเคราะห์มากกว่า 7,000 คนใน TipRanks Ives อยู่ในอันดับที่ 36 ด้วยอัตราความสำเร็จ 73% และผลตอบแทนเฉลี่ย 34% ต่อการจัดอันดับ</p><p></p><p>2. Target แนวโน้มการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ ขยายตัวในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรูปแบบดิจิทัล</p><p>Robert Drbul ของ Guggenheim มองว่า หุ้น Target ยังเป็นขาขึ้น โดยระบุว่าเขา “ได้รับการสนับสนุนจากความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของธุรกิจของ Target ความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสด” Target เพิ่งรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สอง โดยเอาชนะที่วอลล์สตรีทประมาณการไว้ 7% ของกำไรต่อหุ้น ทั้งนี้ เขาเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 250 ดอลลาร์เป็น 295 ดอลลาร์</p><p>อย่างไรก็ตาม ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตรากำไรของ Target ลดลงเล็กน้อย บริษัทได้อนุมัติการซื้อหุ้นคืนใหม่มูลค่าสูงถึง 15 พันล้านดอลลาร์ และได้ดำเนินการซื้อคืนหุ้น 1.5 พันล้านดอลลาร์จากโครงการที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านี้แล้ว</p><p>ใน TipRanks นั้น Drbul อยู่ในอันดับที่ 319 จากนักวิเคราะห์กว่า 7,000 คน ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 12.3% และอัตราความสำเร็จที่ 67%</p><p></p><p>3. Applied Materials ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องได้กดดันภาคเทคโนโลยีและผู้ผลิตยานยนต์ในไตรมาสที่สอง แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทั้งนี้ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น คาดว่า Applied Materials จะทำรายได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565</p><p>Bullish Quinn Bolton จาก Needham & Co. เชื่อว่าหุ้น “จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในปี 2565 เนื่องจากการผสมผสานที่ผลิต WFE [wafer fab equipment] ในปีหน้า”</p><p>Bolton เน้นคำแนะนำซื้อหุ้นและให้ราคาเป้าหมายที่ 153 ดอลลาร์</p><p></p><p>เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว Applied Materials รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่สามารถเอาชนะประมาณการของวอลล์สตรีท ตลอดจนให้แนวโน้มการเติบโตในไตรมาสที่สาม</p><p>นอกจากนี้ Applied Materials ยังมียอดสั่งซื้อคงค้างมูลค่ากว่า 10 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมั่นคงของบริษัทและศักยภาพในการสร้างรายได้</p><p>นักวิเคราะห์ระดับห้าดาวได้รับการจัดอันดับโดย TipRanks ให้อยู่ในอันดับที่ 5 จากนักวิเคราะห์ทั้งหมดกว่า 7,000 คน อัตราความสำเร็จของการจัดอันดับหุ้นของเขานั้นถูกต้อง 74% และผลตอบแทนเฉลี่ย 45.1% ต่อการจัดอันดับ</p><p></p><p>4. Petco โดย Peter Benedict จาก Robert W. Baird เขียนว่า Petco ผลประกอบการไตรมาสสองที่แข็งแกร่ง และแผนงานในการนำเสนอบริการด้านสุขภาพ และภาระหนี้ที่ลดลงจึงทำให้กลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจ Benedict คงอันดับซื้อของ Petco และตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 30 ดอลลาร์</p><p></p><p>บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่มีคุณภาพ เหนือความคาดหมาย และให้แนวโน้วการเติบโต Benedict ยังเสริมว่าเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดอีกครั้ง “การซื้อของในร้านค้าช่วยผลักดันยอดขายศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงให้แข็งแกร่ง” และบริการระดับพรีเมียม เช่น การตัดแต่งขน การฝึกอบรม และการรักษาพยาบาลเป็นที่ต้องการสูง</p><p>Benedict ได้รับการจัดอันดับโดย TipRanks ให้เป็นอันดับที่ 25 จากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 7,000 คน และ 83% ของการให้คะแนนของเขาประสบความสำเร็จ ผลตอบแทนเฉลี่ย 24.9% ต่อการให้คะแนน</p><p></p><p>5. Nvidia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ ประสบความสำเร็จในการปิดรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 และคาดว่าจะยังคงทำรายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแพลนที่จะปิดดีลการเข้าซื้อกิจการ แม้ Rajvindra Gill ไม่ได้คาดหวังว่าการเข้าซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยี Arm Ltd. ของ Nvidia จะปิดในเร็วๆ นี้ แต่เขายังให้มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มในอนาคต และแนะนำซื้อหุ้น โดยเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 200 ดอลลาร์เป็น 245 ดอลลาร์ต่อหุ้น</p><p>Nvidia สามารถเอาชนะประมาณการของวอลล์สตรีทในไตรมาสที่สองเกี่ยวกับกำไรต่อหุ้นและอัตรากำไรขั้นต้น</p><p>ใน TipRanks Rajvindra ถูกจัดอันดับ #161 จากนักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทมากกว่า 7,000 คน ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 18.2% และอัตราประสบความสำเร็จ 68%</p><p></p><p><em>แหล่งข่าว Top Wall Street analysts think these stocks still have major upside after earnings โดย CNBC</em></p><p><em></em></p><p><em><strong>แปลโดยทีม TradersThailand</strong></em></p><p>[/QUOTE]</p>
[QUOTE="WealthUp, post: 3584, member: 27"] [CENTER][ATTACH type="full"]3727[/ATTACH][/CENTER] หุ้น 5 ตัวที่นักวิเคราะห์ที่มีผลงานดีที่สุดของวอลล์สตรีทและคาดว่าจะ upside ที่สำคัญหลังรายงานผลประกอบการ 1. Microsoft จากอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นในสหรัฐ Daniel Ives จาก Wedbush Securities กล่าวว่าเขาเห็นแนวโน้มการทำงานจากที่บ้านยังคงมีอยู่ หลังจากแสดงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งตลอดปี 2563 และครึ่งแรกของปี 2021 Microsoft ยังคงปิดดีลขนาดใหญ่สำหรับแพ็คเกจบริการบนคลาวด์ทั้งในระดับองค์กรและระดับผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับ Microsoft ในปี 2565 Ives คงอันดับซื้อหุ้นและปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 325 ดอลลาร์เป็น 350 ดอลลาร์ จากนักวิเคราะห์มากกว่า 7,000 คนใน TipRanks Ives อยู่ในอันดับที่ 36 ด้วยอัตราความสำเร็จ 73% และผลตอบแทนเฉลี่ย 34% ต่อการจัดอันดับ 2. Target แนวโน้มการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ ขยายตัวในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในรูปแบบดิจิทัล Robert Drbul ของ Guggenheim มองว่า หุ้น Target ยังเป็นขาขึ้น โดยระบุว่าเขา “ได้รับการสนับสนุนจากความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของธุรกิจของ Target ความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสด” Target เพิ่งรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สอง โดยเอาชนะที่วอลล์สตรีทประมาณการไว้ 7% ของกำไรต่อหุ้น ทั้งนี้ เขาเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 250 ดอลลาร์เป็น 295 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตรากำไรของ Target ลดลงเล็กน้อย บริษัทได้อนุมัติการซื้อหุ้นคืนใหม่มูลค่าสูงถึง 15 พันล้านดอลลาร์ และได้ดำเนินการซื้อคืนหุ้น 1.5 พันล้านดอลลาร์จากโครงการที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้านี้แล้ว ใน TipRanks นั้น Drbul อยู่ในอันดับที่ 319 จากนักวิเคราะห์กว่า 7,000 คน ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 12.3% และอัตราความสำเร็จที่ 67% 3. Applied Materials ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องได้กดดันภาคเทคโนโลยีและผู้ผลิตยานยนต์ในไตรมาสที่สอง แม้ว่านักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทั้งนี้ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น คาดว่า Applied Materials จะทำรายได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565 Bullish Quinn Bolton จาก Needham & Co. เชื่อว่าหุ้น “จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในปี 2565 เนื่องจากการผสมผสานที่ผลิต WFE [wafer fab equipment] ในปีหน้า” Bolton เน้นคำแนะนำซื้อหุ้นและให้ราคาเป้าหมายที่ 153 ดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว Applied Materials รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่สามารถเอาชนะประมาณการของวอลล์สตรีท ตลอดจนให้แนวโน้มการเติบโตในไตรมาสที่สาม นอกจากนี้ Applied Materials ยังมียอดสั่งซื้อคงค้างมูลค่ากว่า 10 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมั่นคงของบริษัทและศักยภาพในการสร้างรายได้ นักวิเคราะห์ระดับห้าดาวได้รับการจัดอันดับโดย TipRanks ให้อยู่ในอันดับที่ 5 จากนักวิเคราะห์ทั้งหมดกว่า 7,000 คน อัตราความสำเร็จของการจัดอันดับหุ้นของเขานั้นถูกต้อง 74% และผลตอบแทนเฉลี่ย 45.1% ต่อการจัดอันดับ 4. Petco โดย Peter Benedict จาก Robert W. Baird เขียนว่า Petco ผลประกอบการไตรมาสสองที่แข็งแกร่ง และแผนงานในการนำเสนอบริการด้านสุขภาพ และภาระหนี้ที่ลดลงจึงทำให้กลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจ Benedict คงอันดับซื้อของ Petco และตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 30 ดอลลาร์ บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่มีคุณภาพ เหนือความคาดหมาย และให้แนวโน้วการเติบโต Benedict ยังเสริมว่าเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเปิดอีกครั้ง “การซื้อของในร้านค้าช่วยผลักดันยอดขายศูนย์ดูแลสัตว์เลี้ยงให้แข็งแกร่ง” และบริการระดับพรีเมียม เช่น การตัดแต่งขน การฝึกอบรม และการรักษาพยาบาลเป็นที่ต้องการสูง Benedict ได้รับการจัดอันดับโดย TipRanks ให้เป็นอันดับที่ 25 จากผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 7,000 คน และ 83% ของการให้คะแนนของเขาประสบความสำเร็จ ผลตอบแทนเฉลี่ย 24.9% ต่อการให้คะแนน 5. Nvidia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่ ประสบความสำเร็จในการปิดรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 และคาดว่าจะยังคงทำรายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแพลนที่จะปิดดีลการเข้าซื้อกิจการ แม้ Rajvindra Gill ไม่ได้คาดหวังว่าการเข้าซื้อกิจการบริษัทเทคโนโลยี Arm Ltd. ของ Nvidia จะปิดในเร็วๆ นี้ แต่เขายังให้มุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มในอนาคต และแนะนำซื้อหุ้น โดยเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 200 ดอลลาร์เป็น 245 ดอลลาร์ต่อหุ้น Nvidia สามารถเอาชนะประมาณการของวอลล์สตรีทในไตรมาสที่สองเกี่ยวกับกำไรต่อหุ้นและอัตรากำไรขั้นต้น ใน TipRanks Rajvindra ถูกจัดอันดับ #161 จากนักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทมากกว่า 7,000 คน ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 18.2% และอัตราประสบความสำเร็จ 68% [I]แหล่งข่าว Top Wall Street analysts think these stocks still have major upside after earnings โดย CNBC [B]แปลโดยทีม TradersThailand[/B][/I] [/QUOTE]
Preview
Name
Verification
Post reply
Forums
ข่าวการเงิน
Forum ข่าวการเงินต่างประเทศ ข่าวการเงินรอบโลก
นักวิเคราะห์ชั้นนำของวอลล์สตรีทวิเคราะห์หุ้นที่อาจ upside หลังรายงานผลประกอบการ - 30 ส.ค. 2564
Top