ราคาน้ำมันขึ้นเป็นเซสชั่นที่สองในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปสงค์จากจีนและความกังวลว่าอุปทานจะชะงักหลังแผ่นดินไหวในตุรกี
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 82 เซนต์หรือ 1.01% อยู่ที่ 81.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์ส WTI เพิ่มขึ้น 82 เซนต์หรือ 1.11% อยู่ที่ 74.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
Edward Moya นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นจากการคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของจีนจะเกิดขึ้น และอุปทานที่ชะงักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกี"
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่าการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกครึ่งหนึ่งในปีนี้จะมาจากจีน พร้อมเสริมว่าความต้องการน้ำมันเครื่องบินพุ่งสูงขึ้น
ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบสำหรับผู้ซื้อในเอเชียเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวโดยเฉพาะจากจีน
Daniel Hynes นักยุทธศาสตร์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร ANZ ในซิดนีย์ ชี้ว่าการปิดโรงกลั่นน้ำมัน Johan Sverdrup Phase 1 ซึ่งมีปริมาณการผลิตที่ 535,000 บาร์เรลต่อวันในพื้นที่ทะเลเหนือของนอร์เวย์เป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่สำคัญ
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังจับตาดูคำปราศรัยของนายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิดในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมักจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อสกุลเงินอื่น
แหล่งข่าว Oil rises on China outlook, supply worries after Turkey earthquake โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
