น้ำมันขึ้นในวังอังคาร หลังจากร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในวันก่อนจากสัญญาณการลดกำลังการผลิตของ OPEC+
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์สำหรับการส่งมอบในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 65 เซนต์หรือ 0.77% อยู่ที่ 84.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐสำหรับการส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 64 เซนต์อยู่ที่ 77.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยช่วงก่อนนี้สัญญาฟิวเจอร์สเบรนต์ร่วงลง 7.1% เช่นเดียวกับ WTI ก็ร่วงลง 8.1%
เมื่อวันอังคารที่ผ่าน ดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลซึ่งช่วยผ่อนคลายตลาดน้ำมัน แต่ก่อนนั้น Ihsan Abdul Jabbar รัฐมนตรีน้ำมันอิรักกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า OPEC+ กำลังติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันโดยต้องการรักษาสมดุลในตลาด
อีกประเด็นหนึ่งที่กระทบต่อราคาน้ำมันคือ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กำลังเขย่าตลาด และความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการกำหนดราคาเพดานของสหภาพยุโรปสำหรับการแบนน้ำมันจากรัสเซียที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนธันวาคม
นอกจากนี้ การคาดการณ์พายุเฮอริเคนเอียนที่จะขึ้นชายฝั่งสหรัฐทำให้แท่นขุดเจาะของ BP Plc และ Chevron Corp หยุดการผลิตในวันจันทร์ พร้อมคาดว่าจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนใหญ่ภายในสองวัน
แหล่งข่าว Oil prices claw back some losses as focus turns to possible supply cuts โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand