น้ำมันฟื้นตัวในวันพฤหัสบดีจากที่ลดลงอย่างมากในช่วงก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวและการบริโภคสูงสุดในฤดูร้อน ภายหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ
ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนต์ดีดตัวขึ้น 1.10 ดอลลาร์หรือ 0.9% สู่ 119.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTIของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 116.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์หรือ 1.1%
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2545 ในวันพุธ ช่วยลดแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้น้ำมันด้วยสกุลเงินดอลลาร์แพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
Baden Moore หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร National Australia Bank กล่าวว่า การฟื้นตัวของอุปสงค์ในจีน และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันของ OECD จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในเดือนสิงหาคม ส่งผลให้ความเสี่ยงด้านราคาสูงขึ้นจนถึงไตรมาส 3 ปี 2565
ข้อมูลการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่นิ่งตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาขยับขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้วเป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานระบุ
EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบและสินค้ากลั่นของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่สต๊อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาห์จนถึงวันที่ 10 มิถุนายน
แหล่งข่าว Oil rebounds after steep drop, underpinned by tight supplies โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
