น้ำมันพุ่งขึ้นในวันพุธโดยแตะ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีจากอุปทานที่ตึงตัวและความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน
เบรนท์เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์หรือ 2% ปิดที่ 89.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทะลุ 90 ดอลลาร์ระหว่างวัน เช่นเดียวกับ WTIของสหรัฐปิดขึ้น 1.75 ดอลลาร์หรือ 2% สู่ 87.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัสเซียรวมกองกำลังทหารหลายพันนายที่ชายแดนยูเครน สร้างความกังวลให้แก่ตลาดพลังงานเนื่องจากเกรงว่าการจัดหาก๊าซของรัสเซียไปยังยุโรปอาจถูกขัดจังหวะ
Tony Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ จะทำให้แน่ใจว่าการจัดหาพลังงานทั่วโลกจะไม่หยุดชะงักหากรัสเซียดำเนินการ
เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า จะพิจารณาคว่ำบาตรประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเป็นการส่วนตัว หากรัสเซียรุกรานยูเครน นอกจากนี้ ขบวนการฮูตีของเยเมนยังได้โจมตีฐานทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันจันทร์
ขณะที่ OPEC+ กำลังประสบปัญหาในการบรรลุเป้าหมายการผลิตรายเดือน Claudio Galimberti รองประธานอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ของ Rystad กล่าวว่า "OPEC คือองค์กรเดียวที่สามารถเปลี่ยนทิศทางราคาได้ในขณะนี้"
ขณะเดียวกัน อุปสงค์ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าสต็อกอาจลดลงอีก OPEC+ จะประชุมกันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาการเพิ่มผลผลิตอีกครั้ง
สต็อกในสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ล่าสุด โดยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบปี
แหล่งข่าว Oil breaks $90/bbl for the first time since 2014 on Russia tensions โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
