ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 5% สู่ระดับ 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันพุธเนื่องจากการหยุดชะงักของการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียและคาซัคผ่านท่อส่งก๊าซ Caspian Pipeline Consortium (CPC) สร้างความกังวลเกี่ยวกับอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว
ท่อส่ง CPC เป็นท่อจัดส่งที่สำคัญสำหรับตลาดโลก โดยบรรทุกน้ำมันดิบเกรดหลักของคาซัคสถานประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1.2% ของอุปสงค์ทั่วโลก
ฟิวเจอร์สเบรนต์ปิดบวก 6.12 ดอลลาร์หรือ 5.3% สู่ 121.60 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับฟิวเจอร์ส WTI ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.66 ดอลลาร์หรือ 5.2% สู่ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบระหว่าง 4 ล้านถึง 5 ล้านบาร์เรลทุกวัน ทำให้เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับสองของโลกรองจากซาอุดีอาระเบีย “มีความเห็นเป็นเอกฉันท์เพิ่มมากขึ้นว่าการห้ามซื้อน้ำมันของรัสเซียส่งผลให้อุปทานหยุดชะงัก 2 ถึง 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน” แอนดรูว์ ลิโพว์ ประธานบริษัท Lipow Oil Associates กล่าว
การส่งออกน้ำมันดิบจากคลัง CPC ของคาซัคสถานบนชายฝั่งทะเลดำของรัสเซียหยุดลงในวันพุธหลังจากความเสียหายที่เกิดจากพายุลูกใหญ่และสภาพอากาศเลวร้ายอย่างต่อเนื่อง
อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวในเวลาต่อมาว่า การส่งน้ำมันของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอาจต้องหยุดโดยสมบูรณ์เป็นเวลาสูงสุดสองเดือน
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตรียมประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมหลังการเข้าพบกับผู้นำยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งรวมถึงการประชุมฉุกเฉินของ NATO ด้วย
ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยังคงแยกไม่ออกว่าจะห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันของรัสเซียหรือไม่ หลังจากที่ทั้งแคนาดาและสหรัฐอเมริกากล่าวว่าพวกเขาจะห้ามการนำเข้าจากรัสเซีย และอังกฤษกล่าวว่าจะยุติการซื้อดังกล่าว
ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลของรัฐบาลเผย เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย การผลิตน้ำมันดิบทรงตัวที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาได้รับการส่งเสริมการขุดเจาะ แต่ผลผลิตตอบสนองได้ช้า
แหล่งข่าว Oil jumps 5% as Caspian pipeline disruption adds to supply fears โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand