น้ำมันร่วงลงประมาณ 4% ในวันพุธทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หลังจากข้อมูลของสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเหนือคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมติ OPEC+ ที่จะเพิ่มเป้าหมายการผลิตน้ำมันขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวัน
ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์ปิดลง 3.76 ดอลลาร์หรือ 3.7% กลับไปที่ 96.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.76 ดอลลาร์หรือ 4% กลับไปที่ 90.66 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์
ค่าพรีเมียมสำหรับฟิวเจอร์สเบรนต์ในเดือนหน้าอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัว พรีเมี่ยมเดียวกันสำหรับฟิวเจอร์ส WTI อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือน
สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินก็สร้างเซอร์ไพรส์เช่นกันจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง โดยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล เทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
ขณะที่ในด้าน OPEC+ ออกมติที่จะเพิ่มเป้าหมายการผลิตขึ้นเพียงเล็กน้อย ซึ่งเท่ากับประมาณ 0.1% ของความต้องการน้ำมันทั่วโลก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อิหร่านและสหรัฐกล่าวว่ากำลังเดินทางไปยังกรุงเวียนนาเพื่อเริ่มการเจรจาทางอ้อมเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐหลายรายแสดงความมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยการทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมท่อส่งน้ำมันแคสเปียน (CPC) ซึ่งเชื่อมต่อแหล่งน้ำมันคาซัคกับท่าเรือโนโวรอสซีสค์ของรัสเซียในทะเลดำ โดยระบุว่าการอุปทานได้ลดลงอย่างมากโดยไม่ได้เปิดเผยตัวเลข
แหล่งข่าว Oil falls to nearly 6-month lows after surprise U.S. crude, gasoline build โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
