ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น 25 เซนต์เป็น 81.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงในช่วงเซสชั่นที่ 81.66 ดอลลาร์ ฟิวเจอร์ส WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ 82.87 ดอลลาร์ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ 80.20 ดอลลาร์
กลุ่มพลังงานซื้อขายสูงขึ้นในช่วงท้ายของเซสชั่นจากความเชื่อมั่นในอุปสงค์ที่จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Jim Ritterbusch ประธานบริษัท Ritterbusch and Associates LLC กล่าวว่า "ระดับสูงสุดยังรออยู่ข้างหน้า เพราะความต้องการน้ำมันทั่วโลกมีมากกว่าการผลิตเพิ่ม"
OPEC+ คาดว่าความต้องการน้ำมันจะอยู่ที่ 99.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) โดยเฉลี่ยในไตรมาสที่สี่ของปี 2564 ลดลง 330,000 บาร์เรลต่อวันจากการคาดการณ์ของเดือนที่แล้ว
ในวันพุธข้อมูลของสหรัฐแสดงให้เห็นว่า CPI เพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคมที่อัตรา 6.2% ต่อปี เร็วที่สุดในรอบ 30 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้กระตุ้นความกลัวว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สูงขึ้น เบรนท์และ WTI ลดลงรับข้อมูลดังกล่าวที่ 2.5% และ 3.3% ตามลำดับ
ในวันพฤหัสบดี ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 16 เดือนเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่น จากเดิมพันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันของโลกจะเกิน 100 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาสที่สามของปี 2565 ซึ่งช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้สามเดือนเมื่อเดือนที่แล้ว
เบรนท์เพิ่มขึ้นมากกว่า 60% ในปีนี้และแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 86.70 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 25 ต.ค. อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดูเหมือนจะแข็งค่าต่ำกว่า 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แหล่งข่าว Oil bounces around, settles up despite strong dollar, near $83/barrel โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
