ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 3 ในการซื้อขายช่วงเช้าของเอเชียในวันพุธ เนื่องจากการหยุดส่งออกบางส่วนจากเคอร์ดิสถานของอิรัก ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัวขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นของตลาดกำลังดีขึ้นหลังวิกฤตธนาคารเริ่มผ่อนคลายลง
สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.5% อยู่ที่ 79.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบ WTIของสหรัฐพุ่งขึ้น 59 เซนต์ หรือ 0.8% อยู่ที่ 73.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
Satoru Yoshida นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Rakuten Securities กล่าวว่า "ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ลดลงจากภูมิภาคเคอร์ดิสถานของอิรักและการผ่อนคลายของตลาดการเงินเพิ่มความเสี่ยงให้กับนักลงทุน ร่วมกับความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงท่าทีระมัดระวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมันจะเติบโตขึ้น” พร้อมคาดการณ์ว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้
Barclays กล่าวเมื่อวันอังคารว่าการหยุดส่งออกน้ำมันในอิรักจะยืดเยื้อจนถึงสิ้นปีและจะส่งผลให้ราคาเบรนท์เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากการคาดการณ์ราคาเบรนท์ในปี 2023 ที่ 92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงประมาณ 6.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มีนาคม ตามแหล่งข่าวในตลาดที่อ้างถึงตัวเลขของ API น้ำมันเบนซินคงคลังลดลงประมาณ 5.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นประมาณ 550,000 บาร์เรล
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วน่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ จะเผยแพร่รายงานประจำสัปดาห์ในวันพุธ
ในด้านอุปทาน รองนายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ โนวัค ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่า มอสโกจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการส่งออกพลังงานไปยังประเทศที่เป็นมิตร โดยอุปทานน้ำมันของรัสเซียไปยังอินเดียเพิ่มขึ้น 22 เท่าในปีที่แล้ว
แหล่งข่าว Oil gains for 3rd day on Kurdish supply concerns, easing banking fears โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand