ความตกใจของนักลงทุนอเมริกันต่อการปราบปรามด้านกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องในประเทศจีนชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างพื้นฐานระหว่างสองประเทศที่หลายคนไม่เข้าใจ: เมื่อพูดถึงการสร้างกฎ บริษัทต่างๆ ไม่ได้มีบทบาทมากในจีนเท่ากับในสหรัฐโดยนักลงทุนสหรัฐในบริษัทจีนถูกปราบปรามในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยการกระทำหลายอย่างที่จีนได้ดำเนินการกับบริษัทเทคโนโลยีในประเทศ รวมถึงบริษัทหลายแห่งที่มีการซื้อขายหุ้นในสหรัฐอเมริกา อาทิ การดำเนินการที่สร้างความตกใจที่สั่งให้ลบแอพ Didi ภายหลังที่ IPO ไปไม่กี่วันในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ตามมาด้วยการสั่งแบนแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ อย่าง แอพค้นหางานในจีน Boss Zhipin และบริษัทในเครือของ Full Truck Alliance ซึ่งทั้งคู่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาในเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม บริษัทกวดวิชาสองแห่งที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้รับคำสั่งให้อุปรับโครงสร้างธุรกิจ
เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือ วาทศิลป์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่เกี่ยวกับ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (common prosperity)” ซึ่งนักวิเคราะห์ตีความหมายว่าบริษัทต่างๆ จะถูกพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมต่อสังคมในวงกว้าง นอกจากเพียงแค่สร้างความมั่งคั่งทางธุรกิจ
บริษัทใหญ่ในทั้งสองประเทศทำงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองและมีอิทธิพลต่อนโยบายของรัฐบาล ขณะที่ระบบของสหรัฐฯ นโยบายจะถูกออกแบบมาเพื่อให้องค์กรต่างๆ มีบทบาทต่อรัฐบาล แต่ระบบของจีนได้รับการออกแบบมาเพื่อให้องค์กรต่างๆ สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล แคมเปญของรัฐบาลเมื่อเร็วๆ นี้มุ่งเน้นไปที่การปกป้องข้อมูลของจีน ขัดขวางการผูกขาด หรือแม้กระทั่งการเพิ่มอัตราการเกิด
แหล่งข่าว Hard lesson for U.S. investors: Chinese companies don’t make the rules in China โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand