นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ. กรุงศรี เปิดเผยว่า การลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ถือ เป็นธีมการลงทุนระยะยาวด้วยปัจจัยพื้นฐานของหุ้นดังกล่าวถือว่าแข็งแกร่งตามเมกะเทรนด์ของโลก เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตระยะยาว
ทั้งนี้ด้วยความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดอาจส่งผลต่อราคาหุ้นได้ แต่หุ้นกลุ่มนี้ยังถือว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าและไม่ผันผวนเหมือนหุ้นเทคโนโลยี รวมถึงในช่วง 3ปีที่ผ่านมา กระแสฟันด์โฟลว์ทั่วโลกยังไหลเข้ากลุ่มหุ้น Climate Change อย่างต่อเนื่อง ในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งคาดว่าแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ในระยะ 10ปีข้างหน้าโดยสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนด้านClimate Change ของบลจ.กรุงศรี ด้วยจุดเด่นของกองทุนหลัก คือ มีการกระจายการลงทุนในหุ้นหลากหลายอุตสาหกรรมกว่ากองทุนอื่น เพราะนอกจากลงทุน“ธุรกิจที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ รถยนต์ไฟฟ้า
และยังลงทุนเพิ่มใน“ธุรกิจที่ปรับตัวรับมือกับสภาพภูมิอากาศ” ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น บริษัทผลิตเครื่องฟอกอากาศ การผลิตยาโรคภูมิแพ้ นวัตกรรมการจัดการน้ำและจัดการปัญหาภัยพิบัติ เป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าผลตอบแทนตลาดหุ้นโลกได้
โดยบลจ.กรุงศรี มีกองทุนภายใต้ธีมClimate Change 3 รูปแบบได้แก่กองทุนเปิดKFCLIMA เปิดขายเมื่อต้นปี 2562 และ กองทุนเพื่อการออม KFCLIMASSF และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพKFCLIMARMFเปิดขายเมื่อต้นปี 2565 ณ 9 ก.พ.2565 มีทรัพย์สินสุทธิจำนวน 493 ล้านบาท ,45 ล้านบาท และ116 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาต่อเนื่องแตะพันล้านบาท โดย ณ เม.ย. 2562 ถึง 9 ก.พ. 2565 กองทุนเปิดกรุงศรี KFCLIMA มีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 74%สูงกว่าผลตอบแทนMSCI World เฉลี่ยอยูู่ที่ 46%
อย่างไรก็ตามการลงทุนภายใต้ธีม เหมาะสมกับClimate Change เหมาะกับผู้ลงทุนระยะยาว 3-5 ปีขึ้นไปจับเมกะเทรนด์ของโลก ขจัดความผันผวนระยะสั้นของตลาด เพื่อต้องการไปสู่เป้าหมายประสบความสำเร็จการลงทุนในระยะยาว
แหล่งข่าว บลจ.กรุงศรี โชว์ธีมลงทุน"สีเขียว" สร้างผลตอบแทนในทศวรรษใหม่, bangkokbiznews, 17 ก.พ. 2565