บล.กสิกรไทย ระบุว่า หากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมนายกฯ 8 ปี จะเป็นปัจจัยเร่งให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง กดดัน Fund Flow ไหลออก โดยกรอบการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยจะมีแนวต้าน 1,630 จุด และ 1,655 จุด ส่วนแนวรับ 1,600 จุด และกรณี Worst Case คาดจะอยู่ที่ 1,585 จุด ยังคงมุมมองเดิมคือ ปัจจัยพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง
1.) การทยอยปรับเพิ่ม GDP Growth ล่าสุด World Bank ปรับเพิ่มจีดีพีไทยเป็น 3.1%
2.) โอกาสการเกิด Recession ที่ยังต่ำ
ส่วนปัจจัยต่างประเทศต้องติดตาม วันที่ 7 ต.ค. ตัวเลขแรงงานสหรัฐ Nonfarm payrolls ของเดือน ก.ย. ตลาดคาด 2.5 แสนราย จาก 3.15 แสนรายของเดือน ส.ค. 2.) การประชุม OPEC+ วันที่ 5 ต.ค. และกลางเดือน 13 ต.ค. ติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ก.ย. และฝั่งจีน ติดตามการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 16 ต.ค.
ธีมการลงทุน
1.) ธีมเปิดเมืองในไทย แนะนำ BA, BJC, BEM
2.) ธีมจีนเตรียมเปิดประเทศ ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลัง ปธน.สิจิ้นผิง ต่อเทอมที่ 3 ช่วงกลางเดือน ต.ค. คาดจะบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจีนฟื้น อาทิ PSL, SCGP, AOT, SPA, EKH
3.) หุ้น Defensive อาทิ GULF
4.) กลุ่มกำไรไตรมาส 3 แข็งแกร่ง อาทิ TU
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทย หวั่นหุ้นไทยหลุด 1,600 จุด หากเกิดความวุ่นวายทางการเมือง หลังศาลตัดสินนายกฯ 8 ปี, bangkokbiznews, 02 ต.ค. 2565