บล.กสิกรไทย ระบุว่า จากผลการประชุม กนง. ที่มีมติ 6:1 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.75% และโทนการแสดงความเห็นของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลักๆ ส่งสัญญาณว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยดีกว่าที่คาด
โดยประเมินว่างวด 4Qุ65 เศรษฐกิจไทยจะกล้บเข้าสู่ระดับก่อน Covid ปี และอาจเห็นการปรับคาดการณ์ GDP Growth ไทยของปี 65-66 ขึ้นในการประชุมครั้งถัดไป 28 ก.ย. 65 ส่วนประเด็นเรื่องอัตราเฟ้อพื้นฐานไม่ได้เกินที่คาดหมาย
โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสชะลอ หรือ ระยะถัดไปไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะกลุ่มประชาชน ภาคธุรกิจเปราะบางอาจไม่สามารถปรับตัวได้
มุมมอง KS แนะนำให้ติดตามท่าทีของธนาคารพาณิชย์ในช่วง 1 สัปดาห์ต่อจากนี้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก? เบื้องต้นเราแบ่งเป็น 3 กรณี คือ
1.) ธนาคารพาณิชย์เอกชนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตาม 25bps ประเมินเป็นบวก
2.) ธนาคารพาณิชย์เอกชนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตาม 12.5bps มองเป็นกลาง
3.) ธนาคารพาณิชย์เอกชนยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเลย คาดมีโอกาสไปปรับขึ้นพร้อม FIDF ในวันที่ 1 ม.ค. 66 มองเป็นลบ
ทั้งนี้ KS ให้น้ำหนัก กรณี 3 มากสุด เพราะเศรษฐกิจไทย ภาคประชาชนยังเปราะปางในการฟื้นตัว เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก คาดจะยังไม่เห็นการปรับขึ้นเช่นกัน ประเมินว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่เงินฝากล้นระบบกว่า 1ล้านล้านบาท เทียบกับก่อน COVID ในระดับต่ำกว่า 4 แสนล้าน ทำให้ยังไม่มีความจำเป็นต้องขี้นดอกเบี้ยเงินฝาก
โดยรวมหากธนาคารพาณิชย์เอกชนไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ได้อาจเห็นแรง Sell on fact กลุ่มธนาคารใหญ่ที่ปรับขึ้นในช่วงก่อนหน้า ในทางตรงกันข้ามจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มการเงินและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม KS ประเมินว่ากลุ่มการเงินปัจจุบันยังเผชิญกับความกังวลเรื่องตั้งสำรองและหนี้เสียที่สูงขึ้น ฉนั้นยังไม่แนะนำเข้าลงทุน แต่มองเป็นโอกาสเข้าซื้อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แนะนำลงทุนใน SPALI, ANAN, ORI ในระยะสั้น
ขณะที่การรายงานอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ก.ค. ออกมา 8.5%YoY ต่ำกว่า Consensus คาด 8.7% และชะลอจาก 9.1%YoY ถือว่าดีกว่าที่คาด ทำให้ตลาดเริ่มกลับมาปรับลดมุมมองคาดการณ์การประชุม Fed รอบ เดือน ก.ย. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 50 bps จากเดิมคาด 75 bps สอดคล้องกับที่ KS เคยนำเสนอในช่วงก่อนหน้า และเป็นปัจจัยหนุน Rissky Asset
โดยรวมเงินเฟ้อต่ำคาดประเมินเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Growth และกลุ่ม Tech ดีต่อกองทุนที่เคยแนะนำ อาทิ K-USA, K-CHANGE และหุ้น Tech ในไทย อาทิ BBIK, BE8
รวมแล้วทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาด ทำให้ KS ประเมิน SET Index ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกต่อ แต่อย่างไรก็ตามยังประเมิน Upside ในการปรับขึ้นยังจำกัดคาดแนวต้าน 1,630 จุด
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทย เตือน 'หุ้นแบงก์' เสี่ยงถูกขายหลังไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ทันที แต่บวกต่อ 'หุ้นไฟแนนซ์-อสังหา', bangkokbiznews, 14 ส.ค. 2565