บล.กสิกรไทย มองตลาดหุ้นโลกในช่วงโค้งสุดท้ายของเดือน มี.ค. ยังผันผวน ยังไม่ใช่ขาขึ้นในระยะยาว โดยตลาดหุ้นสหรัฐยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อมากกว่าฝั่งยุโรป ตามทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานลงมามากนับตั้งแต่ต้นปี หรือ – 9% นับตั้งแต่ต้นปี
และในภาวะที่ตลาดเริ่มกังวลเศรษฐกิจจะชะลอตัว (Recession) มากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรป เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่าประเทศอื่นๆ จะทำให้ Fund Flow ไหลเข้าสกุลเงินดอลลาร์, และหุ้นกลุ่ม Tech ของฝั่งสหรัฐ
ส่วนฝั่งเอเซียคาดเริ่มชะลอการปรับขึ้นและแกว่งตัว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย KS คงมุมมองทิศทางจะแกว่งตัว Sideway ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. และที่สำคัญ เดือนเม.ย. 65 ประเมินตลาดมีโอกาสจะปรับลง เนื่องจาก
1. การใช้นโยบายการเงินตึงตัวของ Fed ตลาดหุ้นจะเริ่มรับรู้และถูกแรงกดดันจาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 25bps และ Fed จะเริ่มมาตรการ QT หรือ Quantitative Tightening เห็นได้จากล่าสุด ประธาน Fed ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย (Hawkish)
KS ประเมินว่าในปีนี้ Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 25bps คือคาดขึ้นแรงกว่าปกติ โดยเป็นการปรับขึ้นเพื่อมีช่องว่างในการปรับลงในอนาคต เพื่อรองรับเศรษฐกิจชะลอตัวในอนาคต สอดคล้องกับมุมมองตลาด สะท้อนผ่าน EURO Dollar บ่งชี้ว่าตลาดเริ่มคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะเริ่มปรับลงในช่วงกลางปี 66
2. สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีโอกาสที่จะยืดเยื้อต่อเนื่องไปถึงช่วงต้น 2Q65 ล่าสุด การประชุม NATO กลุ่มประเทศตะวันตกได้ตกลงกันที่จะเพิ่มการช่วยเหลือยูเครน และขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียต่อ และล่าสุดสหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม คือ มุ่งไปที่ ส.ส.รัสเซีย 328 คน และบริษัทด้านการป้องกันประเทศ 48 แห่ง
ในระยะยาวเชื่อว่าประเทศพันธมิตรยูเครน อาทิ ยุโรป สหรัฐ จะยังคงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อ ประเมินมีโอกาสคว่ำบาตรต่อ Economic Sanction มีโอกาสยืดเยื้อ คล้ายกับ Trade war สหรัฐ – จีนที่ยังมีอยู่ เป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทรงตัวระดับสูง
3. ช่วงต้น เม.ย.65 ตลาดหุ้นโลกจะเผชิญกับ IMF Downgrade GDP Growth โดย KS ประเมินมีโอกาสที่โทนการปรับลงในหลายประเทศ โดยเฉพาะฝั่งยุโรปมีโอกาสถูกปรับลด GDP ลงเพราะได้รับผลกระทบจากสงครามสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
แหล่งข่าว บล.กสิกรไทย เปิด 3 ปัจจัยกดดันหุ้นไทยเดือน เม.ย. จ่อปรับตัวลดลงง, bangkokbiznews, 27 มี.ค. 2565