ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษอยู่เหนือ 10% ในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์และสกุลเงินอื่น
สเตอร์ลิงสูงขึ้น 0.25% ล่าสุดที่ 1.2454 ดอลลาร์ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคของอังกฤษลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคมเหลือ 10.1% จาก 10.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ และอัตราดังกล่าวยังสูงสุดในยุโรปตะวันตกอีกด้วย
Derek Halpenny หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดโลก EMEA ของ MUFG กล่าวว่า "ตัวเลขที่ออกมาประกอบกับการเติบโตของการจ้างงานที่ออกมาเมื่อวานนี้เพียงพอที่จะทำให้ BoE ขึ้นดอกเบี้ยอีก 25 จุดในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 11 พฤษภาคม" พร้อมเสริมว่าแต่แนวโน้มของเฟดและสหภาพยุโรปที่ไปในทิศทางเดียวกันก็อาจทำให้ปอนด์แข็งค่าขึ้นได้ไม่มากนัก
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยล่าสุดลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 88.03 เพนนี
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.22% อยู่ที่ 101.94 หลังจากที่ดัชนีได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งปีที่ 100.78 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนโดยเพิ่มขึ้น 0.53% อยู่ที่ 134.8 ฟื้นตัวจากการลดลง 0.29% ในวันอังคาร
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของสหรัฐอยู่ที่ระดับสูงสุดหนึ่งเดือนที่ 4.261% เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวกับรอยเตอร์ว่าเขาต้องการให้ขึ้นดอกเบี้ยอีก 75 จุดซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 75 จุด ในทางตรงกันข้าม ราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขาคาดว่าจะปรับขึ้นอีกเพียง 25 จุดเท่านั้นและจะหยุดชั่วคราวหลังจากนั้น
เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.12% สู่ระดับ 1.09605 ดอลลาร์ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนของสัปดาห์ที่แล้ว ฟรังก์สวิสอ่อนค่าลงแตะ 0.8975 ต่อดอลลาร์
แหล่งข่าว Pound firms after British inflation data, dollar stronger elsewhere โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
