ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานผลสำรวจผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทย (BSI COVID) เดือน มิ.ย.2564 โดยพบว่า ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในภาพรวมปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน แต่ภาคการผลิตเริ่มได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อในคลัสเตอร์โรงงาน การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และวัตถุดิบ การจ้างงานทรงตัว โดยใช้นโยบายสลับกันมาทำงาน และลดชั่วโมงทำงาน บางธุรกิจปลดคนงานเพิ่ม โดยคาดว่าการฟื้นตัวของธุรกิจจะล่าช้าออกไปอย่างน้อยครึ่งปีหลังของปี 2565 ทั้งนี้ จากผลสำรวจภาคธุรกิจต้องการให้ภาครัฐมีการเร่งกระจายฉีดวัคซีนมากที่สุด รองลงมาคือ มาตรการช่วยเหลือด้านต้นทุน โดยธุรกิจส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความพร้อมในการฉีดวัคซีน โดยมีแผนให้พนักงานฉีดวัคซีนตามสิทธิประกันสังคม หรือตามที่รัฐประกาศ
ขณะที่ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (RSI) เดือน มิ.ย. ซึ่ง ธปท.จัดทำร่วมกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย พบว่า ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกปรับดีขึ้น โดยยังคงเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะปรับดีขึ้นในอีก 3 เดือน หากเร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง โดยมีความหวังกับมาตรการเปิดเมือง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ 86% ระบุว่ายอดขายช่องทางออนไลน์ช่วยกระตุ้นยอดขายรวมได้ไม่เกิน 20% และผู้ประกอบการ 66% คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นปกติเมื่อฉีดวัคซีนถึงระดับสร้างภูมิกันหมู่
แหล่งข่าว ผลสำรวจผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจไทยรอ “ฟื้นอีกทีปลายปี 65”, ไทยรัฐ, 02 ก.ค. 2564