ผวาล็อกดาวน์

WealthUp

Moderator
Staff member
Optimized-16.jpg

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 ก.ค.64 ปิดที่ 1,576.60 จุด ลดลง 14.83 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 82,477.06 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,423.07 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด MENA ปิด 2.48 บาท บวก 1.28 บาท, BBL ปิด 108 บาท ลบ 4 บาท, KBANK ปิด 117 บาท ลบ 1 บาท, SCB ปิด 94.50 บาท ลบ 1.75 บาท, CPALL ปิด 60.25 บาทบวก 0.25 บาท

บล.เคทีบีเอสทีระบุว่าจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง อาจกดดันทำให้ ศบค.ประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่ 10 จังหวัด ยาว 14-30 วัน เนื่องจากระบบสาธารณสุขอาจรองรับไม่ได้ และโรงแรมที่ทำ Hospitel อาจจะเต็มในเร็วๆนี้ ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์อาจไม่สามารถรองรับได้

ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นนั้น หากเทียบกับปีที่แล้ว ตลาดจะปรับตัวลงก่อนล็อกดาวน์ เพราะนักลงทุนกังวล แต่หลังประกาศตลาดจะคาดหวังว่าตัวเลขคนติดเชื้อจะลดลง ทำให้ตลาดหุ้นมีโอกาสรีบาวน์กลับปรับตัวขึ้นมาได้ ซึ่งครั้งนี้อาจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหากมีล็อกดาวน์หุ้นไทยมีแนวโน้มจะลงสู่แนวรับ 1,530-1,500 จุด

สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบ คือกลุ่มที่ยังไม่ได้สั่งปิด เช่น ห้างสรรพสินค้า กลุ่มสถาบันการเงิน ที่อาจได้รับผลกระทบจากลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์ เช่น หุ้นโรงพยาบาล กลุ่มที่เกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน

บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า กรณีเลวร้ายสุดมีการประกาศล็อกดาวน์ 10 จังหวัด หุ้นกลุ่มรีโอเพนนิ่งจะโดนกดดันก่อนเป็นอันดับแรก ด้านเทคนิคประเมินแนวรับตลาดไว้ที่ 1,550-1,520 จุด

แนะกลยุทธ์เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มที่ผลประกอบการดี เช่น หุ้นส่งออก และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยในประเทศน้อย โดยใช้กลยุทธ์ “Buy on dip” คือ จังหวัดที่ตลาดผันผวนเชิงลบ เหวี่ยงลงแรง มองเป็นโอกาสในการเลือกซื้อรายตัว โดยหุ้นเด่นสำหรับธีมการลงทุน TOA-TVO หุ้นที่คาดกำไรออกมาดี TIDLOR

กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ที่กำลังจะฟื้นตัวในเรื่องชิปขาดแคลนที่น่าจะเริ่มดีขึ้น เช่น KCE และกลุ่มที่คิดว่ากำไรจะดีต่อเนื่อง เช่น ICHI!!

แหล่งข่าว ผวาล็อกดาวน์, ไทยรัฐ, 07 ก.ค. 2564
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top