ธนาคารกลางสหรัฐจำเป็นต้องพร้อมที่จะตอบสนองต่อความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อที่อาจไม่ลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า เจอโรมพาวเวลล์ประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธ
ด้วยอุปสงค์ของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งมากซึ่งปะทะกับปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่คงอยู่ เฟดอาจใกล้ถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างการตั้งเป้าสำหรับการจ้างงานเต็มอัตราและการรักษาอัตราเงินเฟ้อ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พาวเวลล์กล่าวว่าเขาคิดว่ามีแนวโน้มว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง "อย่างมีความหมาย" ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าเนื่องจากห่วงโซ่อุปทานได้รับการแก้ไข
การสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันพุธโดย Federal Reserve แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศกำลังต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการแย่งพนักงาน แม้ว่าในหลายๆ รายสามารถส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าแล้ว ตามรายงานของ Beige Book ของเฟด หลังจากนั้น หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้ประกาศพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Omicron ในสหรัฐอเมริกาครั้งแรก สถานการณ์ดังกล่าวกำลังท้าทายผู้กำหนดนโยบายของเฟดที่กำลังพิจารณาข่าวเชิงบวกและเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น ควบคู่กับอัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่นานขึ้นและสูงกว่าคาดการณ์
พาวเวลล์ย้ำเมื่อวันอังคารว่า ผู้กำหนดนโยบายจะหารือในการประชุมวันที่ 14-15 ธันวาคมว่าจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรเมื่อใด เร็วกว่าแผนเดิม 2-3 เดือนหรือไม่
พาวเวลล์กล่าวว่าการฟื้นตัวของสหรัฐแข็งแกร่งกว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสนับสนุนทางการคลังที่แข็งแกร่งขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม และการยื่นขอสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 52 ปี
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนในเดือนพ.ย. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นและความเหนื่อยล้าของภาคธุรกิจจากการระบาดใหญ่ กอปรกับความไม่แน่นอนของ Omicron
พาวเวลล์กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของเฟดกำลังเฝ้าติดตามภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและรับทราบว่าอาจเฟดอาจต้องเผชิญกับความตึงเครียด “เราต้องสร้างสมดุลอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้” พาวเวลล์กล่าว “แต่ฉันรับรองว่าเราจะใช้เครื่องมือของเราเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น”
แหล่งข่าว With inflation risks rising, Fed's Powell prepares for possible pivot โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand