ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (30 พ.ย.) ผันผวนในช่วงเช้าเปิดบวก หลังจากนั้นย่อตัวลงหนักในช่วงบ่ายมาปิดตลาดที่ 1,568.69 จุด ลดลง 21 จุด หรือ 1.32% มูลค่าซื้อขาย 159,490.87 ล้านบาท จากความกังวลโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน
โดยตั้งแต่มีข่าวพบการโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอนระบาด ส่งผลให้หุ้นไทยดิ่งหนักติดต่อกัน 3 วันทำการ (26 พ.ย.-30 พ.ย.) 79.77 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป)ลดลง 939,706 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวานนี้ 3,535.33 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 7,201.16 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,453.34 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 13,189.82 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยร่วงหนัก 3 วันทำการติดต่อกัน จากความกังวลการแพร่ระบาดของ โอไมครอน โดยตลาดหุ้นเดือนธ.ค.2564 คาดว่าจะผันผวน เพราะถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของ โอไมครอน และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นัดสุดท้ายที่มีความเสี่ยงเพิ่มวงเงินมาตรการดึงสภาพคล่องออกจากระบบเศรษฐกิจ (QE Tapering) จาก 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ประเมินแนวรับดัชนีเดือน ธ.ค.ที่ 1,570-1,550 จุด ตามลำดับ ท่ามกลางการติดตามข้อมูลของโอไมครอน โดยเชื่อว่าแนวรับสำคัญที่ 1,550 จุด ยังสามารถรับอยู่ โดยแนวต้านอยู่ที่ 1,650 จุด ซึ่งหากเป็นนักลงทุนระยะสั้น แนะติดตามข้อมูลโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อย่างใกล้ชิด
ส่วนนักลงทุนระยะกลางถึงยาวแนะนำทยอยซื้อหุ้นที่ราคาถูกกดดันจากโควิด-19 เพราะเชื่อว่าการระบาดของโควิด-19 กลายพันธุ์จะจบลงภายใน 2 เดือน เช่นเดียวกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่กลายพันธุ์
นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แม้สถิติตลาดหุ้นไทยเดือน ธ.ค.ส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวก แต่คาดว่าปีนี้ตลาดภาวะตลาดหุ้นในเดือนสุดท้ายจะเคลื่อนไหวผันผวน จากโอไมครอนระบาดส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย Underperform ตลาดหุ้นต่างประเทศ จากที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวสูง
โดยมองแนวรับที่ 1,580-1,530 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,650 จุด ส่วนการลงทุน แนะนำซื้อสะสมหุ้นบริเวณแนวรับ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวที่ปรับตัวลงลึกกว่ากลุ่มอื่นๆ 10-15% เพราะเป็นโอกาสถือลงทุนระยะกลางถึงยาวเพื่อรับการฟื้นตัวในปี 2565
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า คาดว่าตลาดหุ้นไทยเดือน ธ.ค.จะมีความผันผวนสูงจากความกังวลโอไมครอน และความกังวลประชุมเฟด ซึ่งฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะยังเห็นการเพิ่มวงเงิน QE Tapering ตามแผน และการปรับเพิ่มคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เร็วกว่าที่ตลาดประเมิน
สำหรับกรอบการลงทุน มองกรอบแนวรับถัดไปที่ 1,550-1,560 จุด และกรณีเลวร้ายที่ 1,500-1,520 จุด ส่วนแนวต้านรายเดือนประเมินไว้ที่ 1,600-1,610 จุด และ 1,620-1,625 จุด ส่วนการลงทุน ระยะสั้นแนะนำกลุ่มถูกผลกระทบโควิด-19 จำกัด ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มโลจิสติกส์ และกลุ่มธนาคาร ส่วนระยะกลางถึงยาวเชื่อว่ากลุ่มท่องเที่ยวยังน่าลงทุน
แหล่งข่าว พิษ "โอไมครอน"ทุบหุ้นไทย ดิ่ง 3 วัน มาร์เก็ตแคปวูบ กว่า 9 แสนล้าน, bangkokbiznews, 30 พ.ย. 2564