ธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG)สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงภาคยานยนต์ในประเทศไทย ที่เข้าสู่ช่วงขาลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังราคาน้ำมันถูกลง ส่งผลให้ยอดขาย LPG ผ่านสถานีบริการ(ปั๊ม)LPG ชะลอตัวลง และหลายปั๊มต้องปิดบริการ
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG มีแผนรุกเข้าสู้ธุรกิจค้าปลีกแก๊ส LPG ภาคยานยนต์ เมื่อปี2558 และผ่านมา 6 ปี PTG สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 4 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์) ระดับ 11.7% พร้อมตั้งเป้าหมายขยับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ภาคยานยนต์ ภายในปี2565 และขึ้นเป็นเบอร์ 3 ภาคครัวเรือน ภายในปี2568
โดยปี2564 บริษัทมีแผนขยายการเติบโตธุรกิจ Auto LPG ซึ่งจะเพิ่มจำนวนปั๊มอีก 50 สาขา รวมเป็น 206 สาขาในสิ้นปี ส่วนธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน หรือ Atlas จะขยายร้าน Gas Shop อีก 50 สาขา รวมเป็น 150 สาขาในสิ้นปี ขณะที่โรงบรรจุก๊าซ จะขยายเพิ่ม 3 สาขา รวมเป็น 4 สาขา ที่บริษัทเป็นผู้บริหารเอง และอีก 12 สาขาจะเป็นแฟรนไชส์
ภายใต้แผนนี้ ทำให้มั่นใจว่า บริษัทจะมีมาร์เก็ตแชร์ ธุรกิจ LPG ภาคยานยนต์ อย่างแย่ต้องขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 ในปีนี้ และอย่างช้าต้องเป็นอันดับ 1 ในปีหน้า จะยอดขายปีนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% ส่วน LPG ภาคครัวเรือน ยังต้องพัฒนาต่อ เนื่องจากบริษัทเพิ่งรุกเข้าสู่ธุรกิจนี้เมื่อปลายปี2563 จึงมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 0.2% หรือเป็นอันดับที่ 8 ซึ่งปีนี้ ตามแผนคาดว่า มาร์เก็ตแชร์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2-2.4% หรือ เป็นอันดับที่ 4 และภายใน 5ปี จะขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาดรวม
แหล่งข่าว 'พีทีจี' รุกธุรกิจแอลพีจี ดันขึ้นแท่นเบอร์ 3 ใน 5 ปี, Bangkokbiznews, 22 มี.ค. 2564
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG มีแผนรุกเข้าสู้ธุรกิจค้าปลีกแก๊ส LPG ภาคยานยนต์ เมื่อปี2558 และผ่านมา 6 ปี PTG สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 4 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์) ระดับ 11.7% พร้อมตั้งเป้าหมายขยับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ภาคยานยนต์ ภายในปี2565 และขึ้นเป็นเบอร์ 3 ภาคครัวเรือน ภายในปี2568
โดยปี2564 บริษัทมีแผนขยายการเติบโตธุรกิจ Auto LPG ซึ่งจะเพิ่มจำนวนปั๊มอีก 50 สาขา รวมเป็น 206 สาขาในสิ้นปี ส่วนธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน หรือ Atlas จะขยายร้าน Gas Shop อีก 50 สาขา รวมเป็น 150 สาขาในสิ้นปี ขณะที่โรงบรรจุก๊าซ จะขยายเพิ่ม 3 สาขา รวมเป็น 4 สาขา ที่บริษัทเป็นผู้บริหารเอง และอีก 12 สาขาจะเป็นแฟรนไชส์
ภายใต้แผนนี้ ทำให้มั่นใจว่า บริษัทจะมีมาร์เก็ตแชร์ ธุรกิจ LPG ภาคยานยนต์ อย่างแย่ต้องขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 ในปีนี้ และอย่างช้าต้องเป็นอันดับ 1 ในปีหน้า จะยอดขายปีนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% ส่วน LPG ภาคครัวเรือน ยังต้องพัฒนาต่อ เนื่องจากบริษัทเพิ่งรุกเข้าสู่ธุรกิจนี้เมื่อปลายปี2563 จึงมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 0.2% หรือเป็นอันดับที่ 8 ซึ่งปีนี้ ตามแผนคาดว่า มาร์เก็ตแชร์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2-2.4% หรือ เป็นอันดับที่ 4 และภายใน 5ปี จะขึ้นเป็นอันดับ 3 ของตลาดรวม
แหล่งข่าว 'พีทีจี' รุกธุรกิจแอลพีจี ดันขึ้นแท่นเบอร์ 3 ใน 5 ปี, Bangkokbiznews, 22 มี.ค. 2564