หุ้นฟิวเจอร์สร่วงลงในการซื้อขายข้ามคืนในวันจันทร์หลังจากการเทขายของกลุ่มเทคโนโลยี ฟิวเจอร์สดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 103 จุด ฟิวเจอร์ส S&P 500 และฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 ต่างซื้อขายในแดนลบ
เมื่อวันจันทร์ ดัชนี Nasdaq Composite ร่วง 2.1% ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 เนื่องจากยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Alphabet, Amazon และ Microsoft ร่วงลงอย่างมากกว่า 2% หุ้น Facebook ลดลง 4.9% ดาวโจนส์บลูชิปร่วงมากกว่า 300 จุดขณะที่ S&P 500 ก็ร่วงลง 1.3%
“นักลงทุนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการเร่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการกระตุ้นทางการเงินทำให้เกิดการเติบโตที่ช้าลง และนำไปสู่การคืนนโยบายสู่ปกติ” Seema Shah หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของ Principal Global Investors
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้นักลงทุนออกจากหุ้นกลุ่มเทค อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.48% ในวันจันทร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 1.56% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดปั่นป่วนในเดือนกันยายนจากความกลัวเรื่องเงินเฟ้อและการเติบโตที่ชะลอตัว ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 4.8% เมื่อเดือนที่แล้ว โดยเป็นเดือนที่ผลงานตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2563 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 7 เดือนต่อเนื่อง แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 14.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในวอชิงตัน ฝ่ายนิติบัญญัติยังคงพยายามหาทางออกในการขยายเพด้านหนี้ โดยกระทรวงการคลังเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการแก้ไขเพดานหนี้จะต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 18 ต.ค.
อย่างไรก็ตาม บางคนยังเชื่อว่าแนวโน้มตลาดหุ้นยังคงแข็งแกร่งหลังจากเดือนกันยายนที่อ่อนแอ เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด Marko Kolanovic หัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดระดับโลกของ JPMorgan กล่าวในหมายเหตุ
แหล่งข่าว Stock futures point to continued losses after a tech-driven sell-off on Wall Street โดย CNBC
แปลโดยทีม TradersThailand