บล.ทิสโก้แนะนำช่วง 1-2 เดือนนี้ให้ติดตามสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น (Hawkish) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยเฉพาะการประชุม Jackson Hole วันที่ 26-28 ส.ค.นี้ ว่าจะเริ่มต้นส่งสัญญาณลดทอนการเข้าซื้อสินทรัพย์ลงหรือไม่ (QE Tapering) และการประชุม FED วันที่ 21-22 ก.ย.ที่จะเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Dot Plot) สำหรับปี 67 เป็นครั้งแรก
แม้ บล.ทิสโก้จะไม่เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของสหรัฐฯที่เข้มงวดขึ้นจะเป็นจุดจบของตลาดหุ้นโลกขาขึ้น แต่น่าจะกดดันให้ตลาดหุ้นเกิดการปรับฐานลงได้ หลังปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทุกเดือนตลอดทั้งปีนี้
ดังนั้น ธีมหุ้นแนะนำเทรดดิ้งระยะสั้น คือ 1.หุ้นที่มีโอกาสปรับมุมมองเชิงบวกขึ้น หลังงบไตรมาส 2 ดีกว่าคาดและไตรมาส 3 มีแนวโน้มดีต่อ คือ AH, BCH, IVL, JWD, PTTGC, SAT, SFT, SMPC, TPIPL, VIBHA และ WICE
2.หุ้นอิงดีมานด์ในต่างประเทศและได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า คือ กลุ่ม ETRON ได้แก่ KCE และ HANA กลุ่ม FOOD ได้แก่ CBG, GFPT, SAPPE และ TU กลุ่ม TRANS (เดินเรือและ โลจิสติกส์) ได้แก่ PSL, TTA, JWD และ WICE
3.หุ้นคาดรับอานิสงส์เชิงบวกจากการระบาดและการล็อกดาวน์ยืดเยื้อคือกลุ่ม HELTH ได้แก่ BCH และ BDMS กลุ่ม ICT & IT ได้แก่ ADVANC, DTAC, AS, COM7 และ SYNEX กลุ่มอื่นๆ ได้แก่ KEX
4.หุ้นหลบภัยพื้นฐานดีมีรายได้มั่นคง คือ ADVANC, EASTW และ EGCO และหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผล (Div. Yield) งวดนี้รออยู่มากกว่า 2% แนะนำ LH, PROSPECT, SMPC, SPALI, STA, STGT, TU
สำหรับธีมหุ้นที่แนะนำหาจังหวะตั้งรับเพื่อหวังผลในระยะถัดไป เมื่อมีการทยอยเปิดเศรษฐกิจ (Re–opening) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐช่วงปลายปีนี้ แนะนำ AOT, BAM, BEM, CPALL, CPN, CRC, MTC และ STEC
แหล่งข่าว มุมมองทิสโก้!!, ไทยรัฐ, 19 ส.ค. 2564