ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์พบว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นภายในสิ้นปีนี้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยยังคงรักษาความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญอยู่แล้วจากภาวะถดถอย แต่เป้าหมาย 2% ของเฟดก็ยังห่างไกลจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกซึ่งยังคงทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โพลของรอยเตอร์ในวันที่ 12-18 พ.ค. พบว่า เฟดจะปรับขึ้นอีก 50 จุดในเดือนกรกฎาคม ตามรายงานของนักเศรษฐศาสตร์ 54 คนจาก 89 คน ก่อนที่จะชะลอการปรับขึ้นราคาพื้นฐานเป็น 25 จุดสำหรับการประชุมที่เหลือในปีนี้ แต่ผู้ตอบแบบสอบถาม 18 คนคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนเช่นกัน ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ในขณะนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.50% -2.75% หรือสูงกว่าภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้เกือบ 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามสำหรับคำถามเพิ่มเติมในการสำรวจ 29 คนจาก 40 คน กล่าวว่าเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีแนวโน้มที่จะเร็วขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้ามากกว่าช้าลง
ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจแสดงความน่าจะเป็นเฉลี่ย 40% ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยมีโอกาส 1 ใน 4 ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า
การเติบโตของ GDP คาดว่าจะเฉลี่ย 2.8% ในปีนี้ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงเหลือเพียง 2.1% และ 1.9% ในปี 2023 และ 2024ตามลำดับ ลดลงจาก 3.3%, 2.2% และ 2.0% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว
การคาดการณ์อัตราการว่างงานยังคงเป็นในแง่ดี โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5% ในปีนี้และปีหน้า ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.7% ในปี 2024
แต่ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 80% ถามคำถามเพิ่มเติม - 28 จาก 34 คน - กล่าวว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มว่าอัตราการว่างงานจะสูงกว่าที่พวกเขาคาดไว้ในปัจจุบันมากกว่าที่ต่ำกว่าที่ต่ำกว่า
แหล่งข่าว Year-end view for Fed policy rate rises again as recession risks remain โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand
