ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 พ.ย.64 ปิดที่ 1,613.78 จุด ลดลง 9.65 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 69,806.13 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,586.48 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ให้กรอบ SET เดือน พ.ย.ที่ระดับดัชนี 1,580-1,660 จุด จับตาราคาน้ำมัน-เงินเฟ้อ ส่วนประชุมเฟดคาดตลาดรับรู้ไปแล้ว แนะลงทุนหุ้น 4 กลุ่ม คือ กอง REIT-ค้าปลีก-ขนส่ง-ท่องเที่ยว รับความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นและการเปิดเมือง
โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการลงทุน เดือน พ.ย.นี้คือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในระดับสูง ที่จะมีผลต่อไปยังคาดการณ์เงินเฟ้อและคาดการณ์ดอกเบี้ยในตลาดโลก หากยังคงพุ่งสูงต่อเนื่องอีก จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในภาพรวมได้
จึงจำเป็นต้องติดตามการประชุมร่วมของสมาชิกกลุ่ม OPEC+ วันที่ 4 พ.ย.นี้ ว่าจะมีการคงระดับการคืนกำลังการผลิตเข้าสู่ตลาด
วันละ 4 แสนบาร์เรลต่อไปหรือไม่ หากคงไว้ที่ระดับดังกล่าวจริง ราคา น้ำมันมีโอกาสยืนในระดับสูงต่อไปได้ ซึ่งอาจจะทำให้ระดับเงินเฟ้อใน ตลาดอยู่สูงต่อไป จนสร้างความกังวลต่อประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกเร็วกว่ากำหนด
ขณะที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 2–3 พ.ย.นี้ มีโอกาสสูงที่เฟดจะประกาศเริ่มการลดวงเงิน QE (Tapering) อย่างเป็นทางการที่ระดับเดือนละ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้โครงการนี้ ไปสิ้นสุดลงเดือน มิ.ย.ปี 65 แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในคาดการณ์ของตลาดไปเกือบหมดแล้ว จึงไม่น่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
แนะกลยุทธ์ลงทุนเดือนนี้ ประเมินดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,580-1,660 จุด หากดัชนีแกว่งบริเวณกึ่งกลางของกรอบนี้ แนะเพียงถือครองหุ้นในสัดส่วนเดิมต่อไป โดยหากระหว่างเดือนดัชนีปรับขึ้นไปที่กรอบบน 1,650-1,660 จุด แนะนำให้ใช้จังหวะนี้พอร์ต ในทางกลับกัน หากดัชนีปรับลงมาแถวบริเวณกรอบล่างที่ 1,580 จุด ให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นได้
หุ้นแนะนำลงทุน เดือน พ.ย.นี้ มี 4 กลุ่ม
1.กลุ่ม Property Fund & REIT ลงทุนที่ 10% ของพอร์ต ผ่านกองทุนรวมที่กระจายลงทุนไปยังหุ้นใน Sector นี้ ที่น่าลงทุนตามธีม Reopening มากที่สุดจากราคาที่ยังคง Laggard มาก และมี Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
2.กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CRC, GLOBAL
3.กลุ่มขนส่ง ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ ได้แก่ BEM, BTS, M, MAJOR
4.กลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, AWC, ERW!!
แหล่งข่าว มุมมองหุ้นเดือน พ.ย., bangkokbiznews, 2 พ.ย. 2564