ยืนยันเศรษฐกิจไทยเริ่ม “ฟื้น” เป็นห่วง “บุญมี” แต่ “กรรมบัง”

WealthUp

Moderator
Staff member
Optimized-14 (2).jpg

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ คุณดนุชา พิชยนันท์ แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ในไตรมาส 3 ของปีนี้ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆเมื่อเดือนกันยายนนั้น ปรับตัว ลงไปเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 0.3%

เหตุเพราะเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้นจนรัฐต้องยกระดับมาตรการควบคุมขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต้อง หันมาระมัดระวังพฤติกรรมการใช้จ่าย และหยุดการเดินทางต่างๆชั่วขณะ ต่างกับไตรมาสที่ 2 หรือก่อนหน้านี้ที่เศรษฐกิจไทยเริ่มขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดถึงประมาณร้อยละ 7.6 แต่จากการที่สถานการณ์ด้านการระบาดเริ่มคลี่คลายลง และการฉีดวัคซีนของประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของภาคท่องเที่ยวและภาคการผลิตตลอดจนการส่งออก ทำให้คาดได้ว่าตัวเลขในไตรมาส 4 จะดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยของปี 2564 หรือปีนี้เฉลี่ยแล้วน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 1.2 เปอร์เซ็นต์

จากนั้นก็จะไปเริ่มแรงขึ้นในปีหน้า 2565 ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยอาจขยายได้ถึงร้อยละ 3.5 หรือ 4.5 เลยทีเดียว ผมเห็นด้วยกับท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ครับ เพราะเท่าที่ติดตามดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจากข่าวต่างประเทศทุกสำนัก ล้วนเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นแน่นอน

โดยเฉพาะ 2 ขาใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐฯและจีน มีสัญญาณบ่งชัดว่าเริ่มฟื้นขึ้นแล้ว...น่าจะมีผลในการช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆฟื้นตัวตามไปด้วย
แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ดังๆของต่างประเทศเขาก็ฝากเงื่อนไขและความห่วงใยเอาไว้ด้วยเช่นกัน...โดยเฉพาะเงื่อนไขแรก ซึ่งสำคัญที่สุดคือการระบาดของโควิด-19 จะต้องคลี่คลายลงมากกว่านี้ และการฉีดวัคซีนก็ควรจะเป็นไปอย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยากจน ซึ่งยังมีช่องว่างอยู่มาก

ขณะเดียวกัน เขาก็ห่วงเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งสูงมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และปัญหาเรื่องราคาน้ำมันที่แพงเกินเหตุ จะเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตสินค้าและบริการสูงขึ้น

อีกเรื่องหนึ่งที่เขาค่อนข้างเป็นห่วงก็คือ การขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเริ่มมาจากการทำสงครามการค้าในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ แล้วบานปลายเป็น “สงคราม” ที่ดูจะใกล้ “สงครามเย็น” เข้าไปทุกขณะในยุคประธานาธิบดี ไบเดน อาจมีผลกระทบไม่มากก็น้อยต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ผมติดตามอ่านที่เขาวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกแล้วมาเปรียบเทียบกับบ้านเรา ก็พบว่ามีทิศทางและสาเหตุของการฟื้นตัวไปจนถึงสิ่งที่จะเป็น อุปสรรคของการฟื้นตัวที่คล้ายคลึงกัน
เรากำลังค่อยๆฟื้นตัวแน่นอนเห็นได้จากข้อมูลของสภาพัฒน์ แต่การขยายตัวของเราก็ขึ้นอยู่กับเจ้า “โควิด-19” เช่นเดียวกันว่าจะคลี่คลายลงมากน้อยแค่ไหนในปีหน้า เรื่องเงินเฟ้อเป็นปัญหาระดับโลกเพราะราคาน้ำมันเป็นเหตุใหญ่เหตุหนึ่ง และเชื่อว่าเราเองก็จะเจอผลกระทบโดยตรง ที่ผมห่วงเหลือเกินคือประเด็น “การเมือง” ในบ้านเรา โดยเฉพาะ การขัดแย้งทางความคิดอย่างใหญ่หลวงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งนอกจากจะไม่บางเบาลงแล้วกลับจะรุนแรงขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ ผมเคยเขียนไว้แล้วว่าประเทศไทยเหมือน “มีบุญ” แต่ “กรรมบัง” ...ทำให้ได้รับผลบุญต่างๆไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมาโดยตลอด เพราะ

ด้วยศักยภาพของคนไทยและทรัพยากรอันทรงคุณค่าของประเทศไทยในทุกๆด้าน รวมทั้งการท่องเที่ยวที่มาแรงมากในช่วงหลังๆ...ประเทศไทยของเราควรไปถึง “ประเทศรายได้ขั้นสูง” ระดับล่างๆนานแล้ว...

แหล่งข่าว ยืนยันเศรษฐกิจไทยเริ่ม “ฟื้น” เป็นห่วง “บุญมี” แต่ “กรรมบัง”, ไทยรัฐ, 17 พ.ย. 2564
 

Members online

No members online now.

Forum statistics

Threads
12,180
Messages
12,435
Members
319
Latest member
SEO01

สนับสนุนโดย

Top