สำนักข่าวรอยเตอร์จัดทำโพลสำรวจความคิดเห็นของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ระหว่างวันที่ 12-18 ต.ค. 2564 พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐจะรอจนถึงปี 2566 ก่อนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นก็ตามขณะที่ครึ่งหนึ่งของสมาชิกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
นักเศรษฐศาสตร์ 40 คนจาก 67 คนกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ 0-0.25% ในปี 2566 หรือหลังจากนั้น และที่เหลืออีก 27 คนคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีหน้า
อัตราเงินเฟ้อสูงเป็นปัญหาสำหรับธนาคารกลางหลายแห่ง ซึ่งบางแห่งได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วหรือใกล้ที่จะทำเช่นนั้น ในส่วนของเฟดนั้นคาดว่ามีการประกาศ Tapering ในเดือนหน้า
นักเศรษฐศาสตร์ 22 คนจากทั้งหมด 40 คนมีความกังวลที่มากขึ้นสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้าจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอีก 30% ของนักเศรษฐศาสตร์มองว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงมากเกินคาด
หลังจากขยายตัว 6.7% ในไตรมาสที่สองเมื่อเทียบเป็นรายปี การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ คาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 3.8% ในไตรมาสที่สามก่อนที่จะขยายตัว 5.0% ในไตรมาสปัจจุบัน เมื่อเทียบกับ 4.4% และ 5.1% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกันยายนสำหรับไตรมาสที่สามและสี่ตามลำดับ
โดยเฉลี่ย เศรษฐกิจถูกคาดว่าจะเติบโต 4.0% ในปีหน้า 2.5% ในปี 2566 และ 2.2% ในปี 2567 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อน 4.2% สำหรับปี 2565 และ 2.3% ในปี 2566 โพลในเดือนกันยายน
อัตราการว่างงานคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 3.6% ถึง 4.7% จนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เป็นอย่างน้อย โดยมีนักเศรษฐศาสตร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะลดลงจนถึงระดับก่อนเกิดโรคระบาด
แหล่งข่าว Fed to wait until 2023 to raise rates, but there is risk of earlier hike โดย Reuters
แปลโดยทีม TradersThailand